วันเสาร์, 7 กันยายน 2567

เผยแล้ว สาวที่ถูกฆ่าฝังดิน เพราะ ควงปืนบุกทวงหนี้ค่ายาบ้าแทนสามีที่ถูกจับติดคุก

14 มี.ค. 2023
155

ตำรวจทราบชื่อสาวถูกฆ่าฝังดินเชิงเขาใกล้สำนักสงฆ์เขาล้อม อ.พรหมคีรี-เป็นเมียเอเยนต์ค้ายานรกที่ถูกตำรวจจับกุมอยู่ในเรือนจำ จนตัวเองต้องรับบทอีเสือสาวพกปืนตามทวงหนี้ยาเสพติดให้สามี-เกิดดวลปืนกับลูกหนี้จนเสียชีวิตเตรียมหมายจับลอตแรก 2 ฆาตกรโหดแต่มีอีก 2-3 คนเตรียมออกหมายจับลอตที่ 2 ต่อไป
จากกรณีที่พบศพผู้หญิงวัยกลางคน ถูกฆ่าฝังดิน บ้านในหมง ริมห้วยข้างสำนักสงฆ์เขาล้อม หมู่ 7 ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช หลังจากหายตัวไปเมือง 1 เดือนที่ผ่านมาและญาติได้แจ้งความกับตำรวจไว้เป็นหลักฐาน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในพื้นที่และเป็นผู้ต้องสงสัยมาเค้นสอบสวนจนให้เบาะแสว่า ผู้หญิงรายนี้เดินทางมาจาก อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช เดินทางเข้ามาในพื้นที่และพกพาอาวุธปืนสั้นไม่ทราบชนิดติดตัวตลอดเวลา จนเกิดมีปากเสียงกันกับผู้ชายคนดังกล่าวพร้อมเพื่อนอีก 1 คน ฝ่ายผู้หญิงได้ชักอาวุธปืนออกมาเพื่อข่มขู่จนเกิดการดวลปืนกันทำให้ฝ่ายผู้หญิงถูกกระสุนปืนฝ่ายตรงข้ามล้มฟุบเสียชีวิต ก่อนฝ่ายผู้ชายพร้อมพวกจะช่วยกันนำศพขึ้นไปขุดหลุมฝังอำพรางคดีบนเชิงเขา ตามที่เสนอข่าวมาแล้วนั้น

(13 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่าเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจ ได้ช่วยกันขุดดินที่คาดว่าเป็นหลุมฝังศพลงไปลึกประมาณ 1 เมตร จึงพบศพ น.ส.สุดารัตน์ อรรถวิจิตร อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 17 ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ถูกห่อด้วยถุงพลาสติกสีดำ สภาพเน่าแฟะในเบื้องต้นยังไม่สามารถตรวจสอบหาบาดแผลการถูกทำร้ายได้ โดยมี พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.วีระศักดิ์ ศรีทอง ผกก.สภ.พรหมคีรี พร้อมพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานคอยควบคุมเก็บรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับสภาพศพผู้ตายอย่างละเอียด ก่อนมอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยประชาร่วมใจช่วยกันหามศพลงจากภูเขาระยะทางหลายกิโลเมตรอย่างยากลำบาก นำส่ง รพ.พรหมคีรี ก่อน รพ.พรหมคีรีจะส่งต่อไปยังสถาบันนิติเวช รพ.มหาราช เพื่อตรวจพิสูจน์หาร่องรอยบาดแผลที่ถูกทำร้านและตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลเป็นหลักฐานในทางคดีต่อไป

จากการตรวจสอบประวัติของ น.ส.สุดารัตน์ ผู้ตาย พบว่าเป็นภรรยาของเอเยนต์ค้ายาเสพติด และยังพัวพันกับขบวนการโจรกรรมรถรวมทั้งสิ่งผิดกฎหมายหลานอย่าง จนเมื่อหลายเดือนก่อนถูกตำรวจ สภ.ช้างกลาง จับกุมตัวพร้อมยาบ้าของกลางกว่า 6,000 เมตร ถูกดำเนินคดีในหลายข้อหาในปัจจุบันถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช น.ส.สุดารัตน์ ผู้ตายจึงรับหน้าที่ออกติดตามทวงหนี้ค่ายาเสพติดที่ลูกค้าทั้งรายเล็กรายใหญ่เป็นหนี้ค่ายาเสพติดของสามีทั้งในพื้นที่ อ.ช้างกลาง อ.พรหมคีรี และใกล้เคียง โดย น.ส.สุดารัตน์ จะพกพาอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดติดตัวตลอดเวลาเพื่อป้องกันตัวและใช้ข่มขู่ลูกหนี้ค่ายาเสพติด จนกระทั้งเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมาได้เดินทางเข้าทวงหนี้ค่ายาเสพติดจากเอเยนต์ในพื้นที่ อ.พรหมคีรี ท้องที่เกิดเหตุทราบว่าลูกหนี้เป็นผู้ชาย 2 คน มีการนัดพบและตกลงกันแต่ไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้จนมีการทะเลาะวิวาทโต้เถียงกันขึ้นอย่างรุนแรง ก่อนจะจบลงด้วยการชักปืนออกมาดวลสู้กัน และ น.ส.สุดารัตน์ ถูกกระสุนฝ่ายตรงข้ามเสียชีวิตคาที่

ทางผู้ชายคู่กรณีจึงช่วยกันนำศพขึ้นไปฝังอำพรางคดีบนเชิงเขาริมลำห้วยบ้านในหมง ใกล้สำนักสงฆ์เขาล้อม หมู่ 7 ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ดังกล่าว
ส่วนในทางคดี พ.ต.อ.วีระศักดิ์ ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งสอบสวนปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาเบื้องต้นจำนวน 2 คน โดยคนหนึ่งเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ได้ก่อนแล้ว ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นเพื่อนคู่หูที่ร่วมกันก่อเหตุฆ่าฝังศพ น.ส.สุดารัตน์ อยู่ยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สพรหมคีรีคอยตามประกบอย่างใกล้ชิดเพื่อรอหมายจับโดยคาดว่าภายในคืนนี้(13 มี.ค.) จะสามารถออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามนอกจากผู้ต้องหา 2 คนดังกล่าวแล้วพบว่ามีผู้ร่วมกระทำผิดในคดีนี้อีก 2-3 คนเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลและรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับจากศาลและติดตามจับกุมผู้ร่วมกระทำผิดในลอตที่ 2 ต่อไป

ไพฑูรย์ อินทศิลา/นครศรีธรรมราช