เผยเคล็ดลับการเมืองสู่แลนสไลด์จาก “หลวงตายุทธ” ผู้ก่อตั้งและประธานมูลนิธิประชาร่วมใจ

จากกรณีที่พระบุญฤทธิ์ หงส์ประสาธน์ หรือ “หลวงตายุทธ” ประธานมูลนิธิประชาร่วมใจ จ.นครศรีธรรมราช องค์การสถานสาธารณกุศล ลำดับที่ 694 และได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานสันนิบาตมูลนิธิจังหวัดนครศรีธรรมราช จากสมาคมสันนิบาตมูลนิธิแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มรณภาพละสังขาร ณ.โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเวลา 03.50 น.ของวันที่ 25 มี.ค. 2566 ที่ผ่านมา รวมสิริ อายุ 86 ปี 2 เดือน พรรษา 66 นับเป็นพระภิกษุที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นพระผู้ใหญ่มาตลอดชีวิต และมีความสามารถพูดได้ 5 ภาษา เป็นผู้ก่อตั้งและประธานมูลนิธิประชาร่วมใจ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีสโลแกนว่า “ทุกชีวิตมีค่า เราปรารถนาให้ปลอดภัย” มีแผนกบรรเทาสาธารณะภัย เจ้าหน้าที่ได้ออกช่วยเหลือสาธารณะประโยชน์ สาธารณะกุศลมาจนถึงปัจจุบัน โดยพระพระบุญฤทธิ์ หงส์ประสาธน์ หรือ “หลวงตายุทธ” ได้มีการสรางหีบศพหรือ “โลงแก้ว”ไม้สักอย่างดีเตรียมไว้บรรจุสรีระสังขารตนเองไว้ตั้งแต่ปี 2565 และสั่งห้ามไม่ให้มีการเทศนาธรรมในงานบำเพ็ญกุศลศพแต่ให้ใช้การจัดกิจกรรม “บอกกล่าวเล่าเรื่อง”แทน เพราะน่าจะไม่เหมาะสมเนื่องจากจะมีผู้มาร่วมงานทุกเชื้อชาติ ศาสนา ทั้งในและต่างประเทศ ตามที่เสนอข่าวมาแล้วนั้น

(25 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานในกลุ่มไลน์หลายกลุ่มของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีการส่งภาพ/คลิปคติธรรมจาก หลวงตายุทธ” พระบุญฤทธิ์ หงส์ประสาธน์ หลายคลิป เช่น “อย่าทำตัวเป็นเหมือนน้ำล้นแก้ว” รวมทั้งคลิปแนะวิธีการทำงานทางการเมืองจนชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย โดยระบุว่าก่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2564 ที่ทีมสมนึก เกตุชาติ นำโดย ดร.โจ กณพ เกตุชาติ ชนะการเลือกตั้งเหนือทีมพรรคประชาธิปัตย์ และทีมธรรมาภิบาล” อย่างขาดลอยเกินความคาดหมาย คะแนนนายกและสมาชิก สภาของทีมสมนึก 4 เขต ๆละ 6 คนรวม 24 คน ทิ้งห่างคู่แข่งมากเป็นประวัติการณ์ของการเลือกตั้งท้องถิ่นในจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยตำแหน่งนายกเทศมนตรี ดร.กณพ เกตุชาติ หัวหน้าทีมสมนึก หมายเลข 4 ได้คะแนนมากถึง 25,277 คะแนน ทิ้งห่าง นายวิฑูรย์ อิสระพิทักษ์กุล ผู้สมัครหมายเลข 1 จากทีมนครธรรมาภิบาลประชารัฐ ที่ได้คะแนน 10,864 คะแนน ส่วนผู้สมัครหมายเลข 2 นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ทีมพลังเมืองนคร ซึ่งเป็นอดีต ส.ส.เขต 1 นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และยังเป็นน้องชายของ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ เข้ามาเป็นลำดับที่ 3 ได้คะแนนเพียง 9,817 คะแนน ในขณะที่คะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ฯคนที่ได้รับเลือกลำดับ 6 ของแต่ละเขตทิ้งห่างคะแนนของทมีมคู่แข่งมากกว่า 4,000 คะแนน

ซึ่งในคลิประบุว่าหลังการรับสมัครเลือกตั้งนายสมนึก เกตุชาติ อดีตนายกเทศมนตรีตั้งแต่สมัยเป็นเทศบาลเมือง-เทศบาลนคร นครศรีธารรมรช กว่า 30 ปี บิดาของ ดร.โจ กณพ เกตุชาติ และคณะได้เข้ากราบนมัสการพระบุญฤทธิ์ เพื่อขอคำอวยพรเป็นสิริมงคลในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งพระบุญฤทธิ์ ให้ศีลให้พรและแนะนำเคล็ดลับให้ทำการเมือง “แบบหนึ่งบวกหนึ่ง ได้ทั้งครอบครัว ได้เป็นร้อยเป็นพัน เป็นหมื่น แต่อย่าทำการเมืองแบบหนึ่งบวกหนึ่งเป็นสอง เราจะพ่ายแพ้การเลือกตั้งตลอดไป นั่นคือการมุ่งมั่นทำความดีดี ทำให้ดี อย่าทำความชั่ว ผู้คนเขาจะมองเห็นและศรัทธาก็จะเพิ่มพูนมากขึ้นตามไปด้วย” จนเป็นที่มาของการชนะแบบท่วมท้นเป็นปฐมบทของ “แลนสไลด์”มาจนถึงการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร และคำดัวกล่าวถูกนำมาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พ.ค. 2566 นี้

ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช