(7 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเย็นวันนี้ (7 เม.ย.) ศูนย์วิทยุ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนคลุ้มคลั่งมีก่อเหตุทะเลาะวิวาทเพื่อแย่งเด็กอายุประมาณ 1 ขวบโดยมีการใช้อาวุธปืนข่มขู่เหตุเกิดบริเวณหน้าศูนย์อาหารราชดำเนิน เยื้อง รพ.มหาราช ถนนราชคำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงจึงรายงานให้ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราชและ พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผกก.สภ.เมือง.นครศรีธรรมราช ทราบ จากนั้น พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย รอง ผกก.ป.สภ.เมือง.พร้อมด้วย ร.ต.อ.อุเทน รินธิจักร รอง สวป.สภ.เมือง และเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.หมายเลขประจำตัว 612345 ตำรวจสายตรวจ จยย. รับผิดชอบท้องที่เกิดเหตุ รีบรุดไปตรวจสอบเพื่อระงับเหตุในที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบ น.ส.ทิติภรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้แจ้งเหตุกำลังทะเลาะกับนายอังศุธร ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี บ้านอยู่ถนนเทวบุรี ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยทราบว่าทั้งสองเป็นอดีตสามีภรรยากัน มีลูกสาวด้วยกัน 1 คนอายุประมาณ 1 ขวบ โดยนายอังศุธร ผู้ก่อเหตุ ใช้อาวุธปืนข่มขู่และแย่งบุตรสาวไปอุ้มเอาไว้ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำอาวุธืนพกสั้นเหน็บที่เอวด้านขวาปลายด้ามปืนสีดำโผล่ให้เห็นอย่างชัดเจน เจ้าหนาที่ตำรวจจึงเข้าไปเพื่อตรวจค้นจับกุมและตรวจยึดอาวุธปืน แต่นายอังศุธร ได้สะบัดตัวหลุดก่อนจะอุ้มบุตรสาว วิ่งหลบหนีเข้าไปในซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านเลขที่ 180 ถนนราชคำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งทราบว่าเป็นบ้านญาติ เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปเจรจาให้ออกมามอบตัว แต่นายอังศุธร ไม่ยอมออกมามอบตัวและพูดจากด่าทอประนาฌเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างรุนแรง โดยมีผู้หญิงสูงอายุซึ่งเป็นญาติของนายอังศุธร เข้ามาผสมโรงขัดขวางและกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพูดจากเสียงแข็งเป็นการข่มขู่ประชาชน
ในขณะที่ พ.ต.ท.ธีระพล สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ เนื่องจากนายอังศุธร ผู้ก่อเหตุมีอาการเหมือนคนเมายาเสพติดและยังมีอาวุธปืนอยู่ในมือ นอกจากนี้ยังมีเด็กน้อย 1 ขวบเป็นตัวประกันอยู่ด้วย ซึ่งเหตุการณ์อาจจะลุกลามบานปลายรุนแรงจนเกิดความสูญเสียขึ้นได้ตลอดเวลา โดย พ.ต.ท.ธีระพล จึงพยายามเจรจาโดยใช้ไมอ่อนเกลี้ยกล่อมอย่างนิ่มนวลและสุภาพ ขอร้องให้นายอังศุธร ออกมามอบตัวและนำอาวุธปืนออกมาให้ตำรวจแต่โดยดี และอ้างว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้มีความผิดร้ายแรงอะไรเลย มีอะไรก็ค่อย ๆ พูดกัน อย่างไรก็ตามผู้หญิงสูงอายุระบุว่าตัวเองเป็นป้าของนายอังศุธร ผู้ก่อเหตุและมีญาติเป็นทั้งนายทหารระดับสูง รวมทั้งเป็นตำรวจระดับนายพล ใคร ๆ ก็รู้จักชื่อเสียงเป็นอย่างดี หากตำรวจพูดจาข่มขู่เสียงแข็ง ญาติ ๆ ที่เป็นนายทหาร นายตำรวจใหญ่เขาไม่ยอมแน่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียด ในขณะที่มีบรรดาไทยมุงจำนวนมากทยอยมามุงดูเหตุการณ์เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ พ.ต.ท.ธีระพล ได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ และพยายามกันผู้คนที่สวมบทไทยมุงเข้ามาห้อมลอมมุงดูเหตุการณ์ถอยออกไปห่าง ๆ เกรงจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันและนำไปสู่ความสูญเสียขึ้นได้ ก่อนจะใช้พยายามใช้ลีลาวาทกรรมเจรจาอย่างนิ่มนวลและอดทน แม้จะถูกด่าทอค่อนข้างรุนแรง โดยยืนยันว่าตนจะดูแลให้ความเป็นธรรมกับนายอังศุธร ให้ดีที่สุด เพราะเป็นเรื่องในครอบครัวไม่ได้เป็นเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญรุนแรงใด ๆ เลย จนเวลาผ่านไปเกือบ 20 นาทีในที่สุดนายอังศุธร ผู้ก่อเหตุก็เริ่มเสียงอ่อนลงและยินยอมนำอาวุธปืนบรรจุในกล่องบรรจุปืนสีฟ้าออกมามอบให้กับ พ.ต.ท.ธีระพล จากนั้นนำบุตรสาวอายุ 1 ขวบมาส่งมอบให้ พ.ต.ท.ธีระพล อีกด้วยก่อนจะยอมออกมาจากบ้านให้ตำรวจควบคุมตัวแต่โดยดี ท่ามกลางความดีใจของคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่ง พ.ต.ท.ธีระพล ได้อุ้มเด็กน้อยขึ้นรถยนต์พาไปส่งคืนสู่อ้อมกอดของ น.ส.ทิติภรณ์ ผู้เป็นแม่ที่อุ้มบุตรสาวแนบอกด้วยความดีใจสุดขีด
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายอังศุธร ผู้ก่อเหตุพร้อมอาวุธปืนของกลาง มาถึงศูนย์ปฏิบัติการ ฯ สภ.เมือง และได้ทำการตรวจสอบอาวุธปืนในกล่องบรรจุพลาสติกสีหฟ้าพบว่าเป็นอาวุธปืนลูกโม่ ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน) สีขาว ขนาค .38 จำนวน 1 กระบอก หมายเลขประจำตัวน ซีอาร์เอ็ก 8896 หมายเลขทะเบียนปืน กท.5408696 โดยมีกระสุนปืนขนาค .38 จำนวน 6 นัด บรรจุอยู่ในรังเพลิง ซองพกปืนชนิดหนัง สีดำ จำนวน 1 ซอง ในเบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาว่ามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ผู้อื่นได้รับอนุญาตไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พกพาอาวุธปืนติดตัวในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งนายอังศุธร ให้การรับรภาพตลอดข้อกล่าวหา
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อสอบถามนายอังศุธร ผู้ต้องหาพบว่าซึ่งมีอาการมึนงง ให้การวไปวนกวน และยอมรับสารภาพว่าตนได้เสพยาบ้าก่อนมาก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจปัสสาวะพบว่าปัสสาวะสีม่วง จึงส่งปัสสาวะให้ทางแพทย์ รพ.มหาราช ทำการตรวจยืนยันผลอีกครั้ง ซึ่งทาง รพ.มหาราช ระบุผลการตรวจชัดเจนว่ามีสารเสพติคเมทแอมเฟตามีนในกระแสเลือด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษในประเภท1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตเพิ่มอีก 1 ข้อหา และจากการตรวจสอบสำเนาใบ ป.4 อาวุธปืนกระบอกดังกล่าวพบว่าเป็นของนายณรงค์ชัย อินเฟย ซึ่งนายอังศุธร ผู้ต้องหาอางว่า นายณรงค์ชัย เพื่อนของตนได้นำอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวมาฝากไว้กับตน และตนได้นำอาวุธปืนพกพาติดตัวไปขอบุตรสาวจาก น.ส.ทิติภรณ์ ข้นแข็ง ภรรยา แต่นางทิติภรณ์ ไม่ยอมให้บุตรสาว จึงเกิดการทะเลาะวิวาทเยื้อแย่งกันขึ้นจนกระทั้งมีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาระงับเหตุดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ทำการบันทึกจับกุมก่อนควบคุมตัวนายอังศุธร ผู้ต้องหาและของกลาง ประกอบด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ซองพกหนัง กล่องบรรจุปืน หนังสือยินขอมรับการตรวจหาสารเสพติด และหนังสือจาก รพ.มหาราช ลงวันที่ 7 เม.ย. 2566 ยืนยันผลตรวจปัสสาวะจาก ร.พ. มหาราชนครศรีธรรมราช โดยระบุรายละเอียดว่ามีสารเสพติดเมทแอมเฟตามีนในร่างกายของ นายอังศุธร ผู้ต้องหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนคดีที่เกี่ยวกับการแย่งบุตรสาวและใช้อาวุธปืนข่มขู่นั้น หาก น.ส.ทิติภรณ์ ภรรยาเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายอังศุธร ผู้ต้องหาทางพนักงานสอบสวนจะสอบสวนปากคำและแจ้งข้อหาดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป
ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช