(27 เม.ย.) พ.ต.ท.จิตรกร คงเหลือ สว.(สอบสวน)สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เมื่อเวลาคืนวันที่ 26 เม.ย.)ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกแทงมาเสียชีวิตที่ รพ.ท่าศาลา ขอให้ออกไปสอบสวนและชันสูตรพลิกศพด้วย จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ ผกก.,พ.ต.ท.นรากร เอียดช่วย รอง ผกก.ป.,พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ จำปาทอง รอง ผกก.(สอบสวน),พ.ต.ต.ยิ้มเอก หมิดสะแหล้ สวป.,แพทย์เวร รพ.ท่าศาลา และตำรวจชุดสืบสวนไปทำการชันสูตรพลิกศพทราบผู้เสียชีวิตชื่อนายธนากรณ์ แก้วขาว อายุ 28 ปี บ้านอยู่ หมู่ 1 ต.ไทยบุรี อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพมีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลมเข้าอกซ้าย 1 แผล
จากการสอบสวนทราบว่านายธนากรณ์ ถูกแทงมาจากที่เกิดเหตุบนถนนในซอยบ้านคลองนุ้ย หน้าบ้านเลขที่ 103 หมู่ที่ 1 ตำบลไทยบุรี อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนทราบว่าคนร้ายมือมีดรายนี้คือนายอานนท์ ศรีจันทร์ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนรักกับผู้ตายนั่นเอง จึงนำกำลังไปจับกุมตัวนายอานนท์ ได้ขณะเดินอยู่บนถนนในซอยดังกล่าวห่างจากที่เกิดเหตุไม่มากนัก โดยจับกุมตัวนายอานนท์ ได้พร้อมของกลางอาวุธมีดปลายแหลมยาว 24 ซม.จำนวน 1 เล่ม และอาวุธปืนพกสั้น ชนิดกึ่งออโตเมติก ขนาด 9 มม.ยี่ห้อเมาเซอร์หมายเลขทะเบียน ตร 7808 หมายเลขประจำตัวปืน 90011242 จำนวน 1 กระบอก และตรวจที่เกิดเหตุพบซองปืนหนัง 1 ซองและแมกกาซีน 1 อัน พร้อมกระสุนจำนวนหนึ่งตกอยู่ในที่เกิดเหตุจึงเก็บรวบรวมไวเป็นหลักฐาน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจฉี่นายอานนท์พบฉี่สีม่วงอีกด้วย
จากการสอบสวนปากคำนายอานนท์ ผู้ต้องหาเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ช่วงดึกเวลาประมาณ22.00น.วันที่ 25เมษายน2566 ขณะที่นายอานนท์ฯผู้ตาย แต่งกายสวมรองเท้าบูชและคาดไฟฉายที่ศีรษะพร้อมฉมวกเพื่อจะไปจับปลาในหมู่บ้าน และขณะกำลังเดินผ่านหน้าบ้านเลขที่ 103 หมู่ 1 ต.ไทยบุรี ของนายธนากรณ์ฯผู้ตาย ได้พบนายธนากรณ์ยืนอยู่หน้าบ้าน ซึ่งทั้งคู่แม้จะเป็นเพื่อนรักกันมาสมัยเรียนหนังสือห้องเดียวกัน แต่ระยะหลังทั้งคู่ได้มีความขัดแย้งโกรธแค้นกันในเรื่องส่วนตัวบางเรื่องกันอย่างรุนแรง โดยอานนท์ ให้การอ้างว่าขณะเดินผ่านหน้าบ้านผู้ตาย ปรากฏว่านายธนากรณ์ ผู้ตายได้ใช้อาวุธปืนยิงขู่จำนวน1นัดแต่ไม่ถูกตน ตนจึงตรงเข้าไปแย่งปืนจากมือนายธนากรณ์จนเกิดการกอดรัดฟักเหวี่ยง จนปืนลั่นอีก1นัดแต่ไม่ถูกใคร ก่อนที่ตนจะแย่งปืนมาได้แล้วตัดสินใจชักอาวุธมีดปลายแหลมออกมาจ้วงแทงหน้าอกซ้ายนายธนากรณ์ จำนวน 1 แผลจนนายธนากรณ์ล้มฟุบลง ก่อนที่ตนจะหลบหนีไปพร้อมอาวุธปืนที่แย่งมาได้ และถูกตำรวจจับกุมได้เวลาต่อมาดังกล่าว
ซึ่งจากการสอบสวนนายอานนท์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาจึงคุมตัวดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา,มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนอันสมควร รวมทั้งข้อหฟาพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนอันสมควร นอกจากนี้ยังถูกำดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีนโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วย
ต่อมาทางตำรวจ สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้คุมตัวนายอานนท์ ศรีจันทร์ ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ บริเวณที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของผู้เสียชีวิตและใกล้กับสถานที่จัดตั้งงานศพของนายธนากรณ์ฯ ผู้เสียชีวิตอีกด้วย ท่ามกลางญาติๆและเพื่อนของผู้เสียชีวิตมามุงดูการทำแผนจำนวนมาก ซึ่งทางตำรวจ สภ.ท่าศาลา ต้องใช้กำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า10นายมาคอยดูแลความสงบบริเวณที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพเพื่อป้องกันการถูกรุมประชาทัณฑ์ขึ้นได้
โดยเริ่มแผนเริ่มจากในขณะที่นายอานนท์ กำลังเดินผ่านหน้าบ้านของผู้ตายแล้วเจอกับนายธนากรณ์ ซึ่งเป็นคู่อริกันมาก่อนเพราะผู้ตายเคยใช้ปืนตีหัวนายอานนท์ จนได้รับบาดเจ็บแล้ว แต่ได้เคลียร์ค่าเสียหายจบไปแล้วเมือปีที่แล้ว ซึ่งเมื่อทั้งคู่เจอกันนายธนากรณ์ผู้ตายได้ตะโกนด่าบุพการีของตนก่อน(ด่าแม่) และนายธนากรณ์ฯผู้ตาย ได้ใช้อาวุธปืนออกมายิงขู่1นัด แต่ไม่โดนใคร จากนั้นนายอานนท์ฯ รีบวิ่งเข้าไปหานายธนากรณ์ ผู้ตายเพื่อทำการแย่งปืนจากมือนายธนากรณ์จนเกิดปืนลั่นอีก 1 นัดแต่กระสุนไม่โดนใครอีก ก่อนที่นายอานนท์จะแย่งปืนจากมือนายธนากรณ์มาได้ แต่แม๊กกาซีนหลุดตกลงบนพื้น ในจังหวะนั้นนายอานนท์ ได้ใช้มีดปลายแหลมจ้วงแทงหน้าอกซ้ายไปจำนวน 2 ครั้ง ทำให้นายธนากรณ์ วิ่งไปล้มฟุบจมกองเลือดและไปเสียชีวิตที่ รพ.ดังกล่าว ซึ่งหลังจากทำแผนเสร็จแล้วทางตำรวจได้คุมตัวนายอานนท์ฯ ผู้ต้องหากลับโรงพักเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ไพฑูรย์ อินทศิลา/นครศรีธรรมราช