สนั่นโซเชียล สาวเมืองคอนประกาศขายไตและดวงตา 1 ข้าง-อ้างหาเงินช่วยสามีเป็นอาสาสมัครทหารพรานจังหวัดชายแดนใต้สู้คดีหลังตกเป็นแพะคดีพยายามฆ่าจนล่าสุดศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกตลอดชีวิตอยู่ระหว่างประกันสู้คดีชั้นอุทธรรณ์

(2 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในโลกโซเชี่ยลเฟซบุ๊คของ “นักรบ ตาไฟ” ได้โพสต์ข้อความของสาวคนหนึ่งที่ประกาศขายไต และดวงตา 1 ข้างเพื่อหาเงินมาสู้คดีที่อ้างว่าสามีตกเป็นแพะ กลายเป็นต้องหาคดีพยายามฆ่า ข้อความระบุว่า “สวัสดีค่ะ.หนู.น.ส.อรพิรนท์ สุวรรณรัตน์……..ขอใช้พื้นที่นี้….หน่อยนะคะ….หนูจะประกาศขายไตข้างนึงคะ..และดวงตาข้างหนึ่ง..เพื่อหาเงินจ่ายให้ทนาย..สู้คดีพยายามฆ่าซึ่งแฟนต้องมาเป็นแพะ..ศาลตัดสินคดีตลอดชีวิต…ตอนนี้ประกันอยู่ระหว่างอุทธรณ์..รู้ว่าขายอวัยวะมันผิดกฎหมายแต่ตอนนี้ไม่มีจริง ๆ ไม่มีแม้กระทั่งเงินจะกิน…ต่อติดหนี้หลายแสนแล้วเอามาสู้คดีนี้
ซึ่งแฟนไม่ได้เป็นคนทำจริง ๆต้องมาเป็นแพะ..รับกรรมที่ไม่ได้ก่อ..พยานปากก็มีหลักฐาน DNA ก็ไม่มี.รอยนิ้วมือก็ไม่ตรงสัญญาณโทรศัพท์ก็อยู่ที่ปัตตานีเหตุเกิดที่นคร .คดีแทงปาดคอเมียผู้กอง.ซึ่งผัวคนเจ็บกับสามีเราเป็นผู้กองกับลูกน้องก็จริงแต่ไม่เคยเกี่ยวข้องอย่างอื่นนอกจากเรื่องงานในกองร้อยกับคนเจ็บก็ไม่ได้รู้จัก.ไม่เคยเห็นหน้าด้วยซ้ำ…..ข้อความเห็นใจความยุติธรรมด้วยลูกก็ยังเล็กอยู่..แต่โดนตัดสินตลอดชีวิต ใครต้องการซื้อไตกับดวงตา ติดต่อ 0909745…. ต้องการเอาเงินมาสู้คดีจริง ๆค่ะ
นอกจากนี้ในเฟซบุ๊คเดียวกันยังโพสต์ข้อความที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้อีกว่า “พยานปากเป็นถึงผู้กองเป็นถึงหมู่…ยังบอกว่าไม่น่าเชื่อถือคนไม่ผิดพยายามทำให้ผิดให้ได้ใช่ไหม..DNA ก็ไม่มีรอยนิ้วมือก็ไม่ตรง.สัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่ได้ออกนอกพื้นที่..หนังสืองดลาก็มี..พยานปากก็มีเป็น 10 เพื่อนๆที่อยู่ด้วยกัน…ผู้พิพากษายังมาบอกว่าพยานให้ปากคำลอย ๆ เอาที่ไหนมาวัด…..ไม่ยุติธรรมเลย”โดยชาวโลกโซเชี่ยลเข้าไปติดตามและแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากเจ้าของเฟซบุ๊ค “นักรบ ตาไฟ” ว่า ตนเป็นอาสาสมัครทหารพราน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในคดีนี้เกิดเมื่อ 2 ปีก่อนในสวนสมเก็ตพระศรีนครินทร์ 84 “ทุ่งท่าลาด” อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยตนเป็นจำเลยที่ 2 ส่วนผู้กอง ฯผู้บังคับบัญชาของตนและเป็นสามีของผู้เสียหายเป็นจำเลยที่ 1 ในส่วนของตนหลังเกิดเหตุนานกว่า 2 เดือนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามรวบรวมพยานหลักฐาน และไปนำภาพเก่าในเฟซบุ๊คของตนมาทำเป็นภาพสเก็ตซ์ เพื่อเสนอขอหมายจับจากศาลจนเมื่อศาลออกหมายจับตนจึงถูกตำรวจตามจับกุม แต่ตนยืนยันว่าไม่รู้เรื่องใด ๆ เลย ในการต่อสู้คดีตนก็ไม่มีเงินที่จะว่าจ้างทนายความ จึงมีแต่ทนายความอาสาขอแรงและเมื่อไม่นานมานี้ทางศาลชันต้นพิพากษาจำคุกตนตลอดชีวิต
“เรื่องนี้ตนยืนยันว่าตนไม่ได้กระทำผิดใด ๆ แต่ศาลไม่ยอมรับฟังหรือเชื่อพยานในส่วนของตนเลยไม่ว่าจะเป็นพยานบุคคลหรือพยานที่เป็นนิติวิทยาศาสตร์ ทั้ง DNA ก็ไม่มี ,รอยนิ้วมือก็ไม่ตรงกับตน ในขณะที่สัญญาณโทรศัพท์ก็ระบุชัดว่าตนไม่ได้ออกนอกพื้นที่ไปไหน หนังสืองดลาก็มี..พยานปากก็มีเป็น 10 เพื่อน ๆที่อยู่ด้วยกัน…ผู้พิพากษายังมาบอกว่าพยานให้ปากคำลอย ๆ ตนอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ด้วย หลังศาลตัดสินจำคุกตนตลอดชีวิต ทำให้ น.ส.อรพิรนท์ สุวรรณรัตน์ ภรรยาของตนเครียดอย่างหนัก ลูก ๆ ก็ยังเล็ก และไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาจ้างทนายความสู้คดี เพราะทุกวันนี้จะกินแทบไม่มี น.ส.พรพินจึงตัดสินใจประกาศขายไตและดวงตา 1 ข้าง เพื่อหาเงินมาใช้จ่ายในการต่อสู้คดีให้กับตน”

นักรบตาไฟ กล่าวอีกว่า ตนได้ประสานงานกับศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช และ “เพจข่าวทั่วไทย” เพื่อให้ช่วยเหลือในเรื่องนี้ โดยเฉพาะการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ และคาดหวังความเมตตาจากศาลอุทธรณ์จะพิจารณารายละเอียดในสำนวนคดีอย่างละเอียดรอบคอบ ซึ่งตนเชื่อว่าความยุติธรรมยังมีอยู่และตนจะได้รัยบความเป็นธรรมอย่างแน่นอน ตนยืนยันว่าคดีนี้ตนไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องใด ๆเลย ตนเป็นแพะรับกรรมอยางชัดเจน นักรบตาไฟ กล่าวยืนยันหนักแน่น

ไพฑูรย์ อินทศิลา/นครศรีธรรมราช

เพจเฟซบุ๊กข่าวทั่วไทย