วันศุกร์, 20 กันยายน 2567

สะพานชลมารควิถี แลนด์มาร์คชลบุรี กลายเป็นที่ถกเถียง เป็นสมบัติของ พ่อค้า-แม่ค้า หรือ ประชาชน

18 มี.ค. 2023
689

จุดพักรถ บริเวณสะพานชลมารควิถี เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา เป็นแลนด์มาร์กยอดนิยมแห่งใหม่ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวจังหวัดชลบุรี
สะพานชลมารควิถี เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา เป็นถนนเลียบชายทะเลตลอดเส้นทางมีความยาวเลียบชายฝั่งทะเลประมาณ 7 กม. ก่อสร้างด้วยงบประมาณภาษีจำนวนกว่า 1.7 พันล้านบาท วัตถุประสงค์หลักคือการพัฒนาเมือง โครงข่ายการคมนาคม เป็นเส้นเลี่ยงเมืองเลียบชายฝั่งทะเล ความยาวรวม 16.57 กม. ในปัจจุปันได้ก่อสร้างไปแล้ว 4 ระยะ ความยาวประมาณ 7 กม. ช่วยระบายรถจากการจราจรที่คับคั่งบนถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้า-ออก กรุงเทพฯ-ชลบุรี จาก ต.บางทราย-ต.เสม็ด อีกทั้งยังใช้ส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็นสถานที่พักผ่อนและออกกำลังกายริมทะเลที่สวยงามในเขตอ.เมือง จ.ชลบุรี

จุดพักรถบนเส้นทาง สะพานชลมารถวิถี จึงกลายเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญ เพราะเป็นจุดชมวิวชายทะเลเมืองชล จุดสูดโอโซนกลิ่นอายทะเล ของประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยว
มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ากลุ่มหนึ่ง ได้ฉกฉวยใช้จุดพักรถบริเวณสะพานชลมารถวิถี ตั้งวางขายสินค้า มีอาหาร เครื่องดื่ม ให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาพักรถ ชมวิว กลุ่มพ่อค้าแม่ค้า เมื่อเห็นว่าขายสินค้าได้ จึงได้มีการยึดพื้นที่ จับจองพื้นที่ ขายแบบขายถาวรด้วยการวางต้นไม้ วางสินค้า เอารถมาจอดแบบยึดพื้นที่ถาวร เพื่อยึดพื้นที่บริเวณจุดพักรถ เอามาสร้างประโยชน์ให้กับตัวเอง

กลายเป็นว่าพื้นที่จุดพักรถบนสะพานชลมารควิถี กลายเป็นตลาดนัดเลียบชายทะเล พ่อค้าแม่ค้า ตั้งวางขายของ ขายอาหาร ขายเครื่องดื่ม ซึ่งไม่รู้ว่ามีการแอบแผงขายเหล้า ขายเบียร์ให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวด้วยหรือเปล่า ซ้ำยังมีแนวโน้มว่าจะมีการจับจองพื้นที่กันมากยิ่งขึ้น
ต้องขอบคุณ “ผู้ว่าแจ้”นายธวัชชัย ศรีทอง ผวจ.ชลบุรี นายประสิทธิ์ อินทโชติ นายอำเภอเมืองชลบุรี ที่ใช้มาตรการเฉียบขาด สั่งการให้ ฝ่ายปกครอง-ตำรวจ ดำเนินการ “จัดระเบียบบนสะพานชลมารควิถี” และจับกุมผู้ฝ่าฝืน นำสินค้ามาวางขาย บริเวณจุดพักรถอย่างจริงจัง
เพราะสถานที่จุดพักรถ ไม่ใช่สถานที่ตั้งวางขายของ

 

กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเมื่อเสียผลประโยชน์ ก็ยังร้องเรียนเรื่องความเดือดร้อนของตัวเอง ไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจ.ชลบุรี ขอให้จังหวัดชลบุรีทบทวนการจัดระเบียบบนสะพานชลมารถวิถี เพื่อจะได้กลับมาขายสินค้าได้อีก
อีกทั้งยังได้ไปร้องเรียนนักการเมืองกลุ่มหนึ่งให้ช่วยเหลือ อ้างความเดือดร้อน เพื่อให้กลับมาขายสินค้าได้ตามเดิม
ต้องขอขอบคุณ “นายกพาด” นายณพล(สัมภาษณ์) บริบูรณ์ อดีตนายกสมาคมนักข่าว จ.ชลบุรี ที่ปัจจุปันเป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.ชลบุรี เขต.2 พรรคเสรีรวมไทย ที่ยึดเอาผลประโยชน์ของประชาชนส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เห็นด้วยกับการจัดระเบียบของ “ผู้ว่าและนายอำเภอเมืองชลบุรี” และไม่เห็นด้วยที่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้ากลุ่มนี้ไปยึดเอาสมบัติของคนชลบุรี มาแสวงหาประโยชน์

การเป็นนักการเมืองอาสาเข้าไปเป็นปากเสียงให้ประชาชน เป็นเรื่องที่ถูกต้องและสมควรจะยกย่องชื่นชม
แต่การอาสาไปเป็นปากเสียงให้กับประชาชนกลุ่มหนึ่งที่เสียผลประโยชน์ให้กับตัวเอง โดยไม่เห็นประโยชน์ของคนส่วนรวม มันจะทำให้เสียคะแนนนิยม

 

ภาพ/ข่าว ธนา ธรรมวาจา / เจียรพรรณ สุรนันท์ ผู้สื่อข่าว ประจำ จ.ชลบุรี