วันอาทิตย์, 8 กันยายน 2567

ระทึก! ศาลอุทธรณ์ภาค ๗ มีคำสั่งรับคำร้องกกต.ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้สมัครส.ทต.ท่าแลง ยกทีม ๑๒ ราย

29 มี.ค. 2023
131

กกต.ยื่นคำร้องพร้อมสำนวนทุจริตเลือกตั้งส.ทต.ท่าแลงต่อศาลอุทธรณ์ภาค ๗ ขอให้ศาลสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ สั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งยกทีม ๑๒ รายเป็นเวลา ๑๐ ปี และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดเลือกตั้งทดแทนที่เกิดขึ้น มีผลให้ ๗ ผู้ถูกร้องต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาว่าไม่ได้กระทำความผิด สืบเนื่องจากการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีฯ และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่าแลง เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๔ มีผู้ลงสมัครรรับเลือกตั้ง ๒ กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มพลังท่าแลง ซึ่งมีนายสงวน จิตต์พุ่ม เป็นหัวหน้ากลุ่ม และกลุ่มรวมใจคนรักท่าแลง ที่มีนายพรชัย ภู่ระหงษ์ เป็นหัวหน้ากลุ่ม ทั้งสองกลุ่มส่งลูกทีมสมัครเป็นส.ทต.ท่าแลง ทั้งสองเขตครบทุกเขตเลือกตั้ง

โดยผลการเลือกตั้งนายพรชัย ภู่ระหงษ์ จากกลุ่มรวมใจคนรักท่าแลง ได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง แต่ส.ทต.ท่าแลงของกลุ่มได้รับเลือกตั้งเพียง 5 คน เป็นเสียงข้างน้อยในสภาเทศบาลตำบลท่าแลง ประกอบด้วยนายชัน เสมเถื่อน นายสำรวย ดอกจันทร์ นายชัน เสมเถื่อน นายเสน่ห์ เวชสว่าง และนายอำพร แจ่มแจ้ง ขณะที่กลุ่มพลังท่าแลงได้รับเลือกตั้งเข้ามาจำนวน ๗ คน ประกอบด้วย นายศิริชัย เรืองศรี นายสำรอง จัดพูล นายธะเนตร เสมเถื่อน นายบรรจบ จิตต์พุ่ม นายกนกพล พ่วงทอง นายเสน่ห์ เทศเกิด และนายสัญญา พ่วงทอง ครองเสียงข้างมากในสภาเทศบาลตำบลท่าแลง

ส่วนนายสงวน จิตต์พุ่ม หัวหน้ากลุ่มพลังท่าแลง โดนกกต.ถอนชื่อออกจากการเป็นผู้สมัครเลือกตั้งเป็นนายกเทศบาลตำบลท่าแลง หลังลงสมัครได้ไม่นาน เมื่อกกต.ตรวจสอบพบว่าเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามลงรับสมัครเพราะถูกผวจ.เพชรบุรี มีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งหลังถูกร้องเรียนปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบขณะดำรงตำแหน่งนายกเทศบาลตำบลท่าแลงขณะอยู่ในวาระเดิม กระทั่งมีการหยิบเอาประเด็นดังกล่าวไปโจมตี ใส่ร้ายกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหัวหน้ากลุ่มรวมใจคนรักท่าแลงว่า ร่วมมือกันกลั่นแกล้งทำให้หัวหน้าทีมรวมพลังท่าแลงถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง และมีลักษณะต้องห้ามจน กกต.มีคำสั่งให้เพิกถอนออกจากผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง เป็นเหตุให้มีการบุกรุกเข้าไปตั้งเวทีปราศรัยโจมตี ใส่ร้าย คู่แข่ง ในพื้นที่ของเทศบาลตำบลท่าแลง และมีการไลฟ์สดโจมตี ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัคร จนถึงวันลงคะแนนเลือกตั้ง แต่หัวหน้ากลุ่มรวมใจคนรักท่าแลงก็สามารถฝ่าฟันจนได้รับการเลือกตั้ง ด้วยคะแนน ๒,๑๙๔ คะแนน ซึ่งมีบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด ๑,๘๒๐ ใบ จากผู้มาใช้สิทธิ ๔,๓๑๗ คน และบัตรเสีย ๓๐๓ ใบ

หลังเลือกตั้งได้มีผู้ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งว่า กลุ่มพลังท่าแลงกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น มาตรา ๖๕ (๕) หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครใดเป็นเหตุให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม กกต.รับคำร้องและทำการไต่สวน กระทั่งมีคำวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ ๔๒๒/๒๕๖๕ เมื่อวันอังคารที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ภาค ๗ เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้ถูกร้องทั้ง ๑๒ ราย สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่แทนผู้ถูกร้องที่ได้รับการเลือกตั้งทั้ง ๗ รายและสั่งให้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งทดแทน และให้ดำเนินคดีอาญากับผู้ถูกร้องทั้ง ๑๒ รายและผู้สนับสนุนอีก ๑ ราย


ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๖ กกต.ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค ๗ สั่งให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่าแลง เขตเลือกตั้งที่ ๑ และเขตเลือกตั้งที่ ๒ ใหม่ แทนนายศิริชัย เรืองศรี นายสำรอง จัดพูล นายธะเนตร เสมเถื่อน นายบรรจบ จิตต์พุ่ม นายกนกพล พ่วงทอง นายเสน่ห์ เทศเกิด และนายสัญญา พ่วงทอง ตามพรบ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๖๒ มาตรา ๑๐๘ วรรคสอง สั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้สมัครของกลุ่มพลังท่าแลงทั้ง ๑๒ คนในเขตเลือกตั้งที่ ๑ และเขตเลือกตั้งที่ ๒ เป็นเวลาสิบปี และสั่งให้ทั้ง ๗ คน รับผิดในค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งใหม่ เป็นเงิน ๕๓๕,๑๙๔.๑๙ บาท (ห้าแสนสามหมื่นห้าพันหนึ่งร้อยเก้าสิบสี่บาทสิบเก้าสตางค์) และดอกเบี้ยพร้อมดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราร้อยละห้าต่อปีของต้นเงินจำนวนดังกล่าวนับแต่วันถัดจากวันยื่นคำร้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น ตามมาตรา ๑๐๙ วรรคหนึ่ง ตามพรบ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๖๒ ศาลอุทธรณ์ภาค ๗ รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย

ศาลมีคำสั่งนัดประชุมคดีและตรวจพยานหลักฐาน วันอังคารที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๖๖ และแจ้งคำสั่งศาลไปยังประธานสภาเทศบาลตำบลท่าแลง แล้ว ซึ่งโดยผลของกฎหมายทำให้ส.ทต.ท่าแลง ของกลุ่มรวมพลังท่าแลงที่ได้รับเลือกตั้งทั้ง ๗ ราย ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาว่าผู้นั้นมิได้กระทำผิด ซี่งในนั้นมีประธานและรองประธานสภาเทศบาลตำบลท่าแลงอยู่ด้วย และเมื่อเสร็จสิ้นคดีในศาลอุทธรณ์ ภาค ๗ คดีเลือกตั้งแล้ว กกต.ยังมีคำวินิจฉัยให้ดำเนินคดีอาญาในศาลอาญารวมทั้งนายจีรศักดิ์ เทศเกิด รวมผู้สนับสนุน ๑๓ ราย ตามมาตรา ๖๕ (๕) ประกอบมาตรา ๑๒๖ แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๖๒ อีกด้วย สำหรับนายจิรศักดิ์ เทศเกิด ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มพลังท่าแลง และเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครซึ่งเป็นญาติของตนเองรายหนึ่ง ก่อนหน้านี้ได้ถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและถูกศาลจังหวัดเพชรบุรี มีคำพิพากษาลงโทษในหลายคดีมาแล้วก่อนหน้านี้

ข่าว-สุรพล นาคนคร จ.เพชรบุรี