เมื่อเย็นวันนี้ (5 เม.ย.) ได้มีน้องจ๋า อายุ 35 ปี บ้านอยู่ในเขตเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช เดินทางเข้าพบนายไพฑูรย์ อินทศิลา สื่อมวลชนอาวุโสและประธานศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยทันทีที่พบน้องจ๋าพบหนานายไพฑูรย์ ได้ปล่อยโฮร้องห่มร้องให้คร่ำครวญพร้อมยกมือไหว้วิงวอนขอความช่วยเหลืออย่างน่าเวทนาสงสาร ก่อนทรุดนั่งกับพื้นเพื่อกราบเท้านายไพฑูรย์ ขอให้ช่วยเหลือเป็นที่น่าเวทนาสงสารยิ่งนัก น้องจ๋า เล่าเรื่องราวชีวิตสุดทันรดด้วยน้ำตานองใบหน้าตลอดเวลาว่าตนมีลูก 2 คน อายุ 8 และ 9 ขวบ สามีทิ้งไปมีเมียใหม่ไม่เคยส่งเสียดูแล เมื่อหลายเดือนก่อนกระท่อมที่เคยอยู่อาศัยก็ชำรุด ผุพังจนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ตนจึงไปเช่าบ้านที่ใกล้วัดบ้านตาล ต.กำแพงเซา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยลูกคนเล็กเรียนที่โรงเรียนวัดบ้านตาล ชั้น ป.2 ส่วนลูกอีกคนตนได้นำไปฝากแม่เลี้ยงที่ ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ให้เรียนที่โรงเรียนวัดสมอ ชั้น ป.3 ในระหว่างที่ตนอาศยอยู่ที่บานเช่าปรากฏว่าบริเวณข้างเคียงเขาทำสวนทุเรียนและมีการฉีดยาฆ่าแมลง กระแสลมจะพัดเอาสารพิษจากการฉีดทุเรียนมาเข้าบ้านตนต่อเนื่องและบ้านเช่าไม่สามารถเปิดประตูหลังได้ ตนต้องทนรับสารพิษอยู่เป็นเวลานานหลายเดือน จนเริ่มส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย มีอาการมึน วิงเวียนศรีษะ หัวใจเต้นเร็ว หน้ามืด จนล้มลงหมดสติถูกนำส่ง รพ.มหาราช แพทย์ระบุว่าเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงแกนสมองแตกและกระจายลงสู่ไขสันหลัง เสี่ยงอันตรายถึงชีวิตได้ตลอดเวลา หลังจากตนออกจาก รพ. ไม่สามารถทำงานหนักได้ รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรง มึนงง วิงเวียนศรีษะ หน้ามืดเป็นลมบ่อยครั้งที่สำคัญจะมีปัญหาเรื่องการทรงตัวเซถลาจะล้มหลายครั้ง
“ประกอบกับตนไม่มีเงินค่าเช่าบ้านจึงตัดสินใจนำลูกคนเล็กกลับมาบ้านเดิม แต่พบว่าพื้นที่รกร้างเต็มไปด้วยป่าละเมาะ ไม่เหลือกระท่อมให้พออาศัยอยู่ได้ จึงขอความเมตตาอาศัยอยู่ชายคาบ้านคุณยายอายุกว่า 85 ปีซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน ซึ่งก็ได้รับความเมตตาให้ตนและลูกอาศัยซุกหัวนอนตามมีตามเกิด ตนและลูกชายได้รับความลำบากเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ตนไม่มีรายได้ใด ๆ บางวันแทบไม่มีข้าวกิน และในปัจจุบันมีสมบัติชิ้นสุดท้ายคือ จยย.เก่า ๆ ที่กำลังจะขายนำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว” น้องจ๋า เล่าชีวิตสุดรันทดอีกว่าตนได้เดินทางไปขอความช่วยเหลือจาก พม.จ.นครศรีธรรมราชหลายครั้งแต่ได้รับการปฏิเสธและเจ้าหน้าที่แสดงอาการไม่พอใจ รำคาญที่ตนมารบเร้าขอความช่วยเหลือ และครั้งสุดท้ายได้นำแบบฟาร์มการขอความช่วยเหลือมายื่นให้ตนพร้อมกำชับว่าให้กรอกรายละเอียดและนำไปยื่นที่เทศบาลนคร นครศรีธรรมราช ไม่ต้องมาที่ พม.อีกแต่ตนยังไม่ได้เดินทางไปยื่นขอความช่วยเหลือจากเทศบาล ฯและเมื่อเกดือนก่อนตนได้ตัดสินใจเดินท่างไปขอรับการช่วยเหลือจากเศรษฐีใจบุญชื่อดังท่านหนึ่งที่เคยมีข่าวโด่งดังเรื่องใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือสาธารณกุศลบ่อยครั้ง แต่ถูกพนักงานกีดกันไม่ให้เข้าพบ พนักงานได้ขอเบอร์โทรศัพท์ตนไว้อ้างว่าจะรีบติดต่อตนเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไปแต่เรื่องให้เงียบหายไปเกือบ 1 เดือนแล้ว โดยตนไม่รู้จักใครเลย ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครได้อีก จึงตัดสินใจเข้ามาร้องเรียนและวิงวอนขอความช่วยเหลือจากนายไพฑูรย์ ผู้สื่อข่าวอาวุโสดังกล่าว
“ ตนทราบว่าสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราชร่วมกับนายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชและนางพิชานันท์ เผือกผ่อง นายกเหล่ากาชาดและประธานแม่บ้านมหาดไทยมีโครงการช่วยเหลือผู้อยากไร้ โดยเฉพาะการก่อสร้างบ้านปันสุข เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ยากไร้ จึงอยากให้ผู้ว่า ฯและคุณนายและสมาคมสื่อมวลชน ฯช่วยสร้างบ้านหรือกระท่อมหลังเล็ก ๆ ให้ตนพอได้อาศัยอยู่กับลูก ๆ ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่ปี เพราะหมอบอกว่าคงอยู่ได้ไม่นาน ซึ่งทุกวันนี้ตนและลูก ๆ เหมือนคนไร้ที่พึ่ง คนเร่ร่อน มีชีวิตไปวัน ๆ ไร้อนาคต สงสารลูกมาก จึงอยากมีบ้านอาศัยในช่วงบั่นปลายชีวิต อย่างน้อยถ้าตนเสียชีวิตลูก 2 คนจะได้มีบ้านอยู่อาศัย พื้นที่ข้างบ้านก็พอจะปลูกพืชผักต่าง ๆ กินเองได้ ซึ่งนายไพฑูรย์ ได้รับปากว่าจะให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยจะประสานกับผู้ว่า ฯและนายเหล่ากาชาด ฯเพื่อขออนุมัติสร้างบ้านปันสุข ฯมอบให้โดยเร็วที่สุด”
ต่อมาเมื่อเวลา 21.00 น.วันเดียวกันนี้นายไพฑูรย์ อินทศิลา พยายามโทรศัพท์ไปหาน้องจ๋าหลายครั้ง เพื่อจำนำเงินจำนวน 3,000 บาทที่พระครูปลัดบุญฤทธิ์ วิชุชาธโร เจ้าอาวาสวัดนางพญา ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มอบเงินช่วยเหลือไปให้ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั้งเวลา 21.30 น.จึงมีคนรับสายทราบว่าเป็นลูกชายคนเล็ก ของน้องจ๋า อายุ 8 ขวบ แจ้งว่า “แม่ได้ตัดสินใจกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย แต่มีคนเห็นและช่วยไว้ได้ทัน รอดตายตอนนี้แม่อยู่ รพ.มหาราช”ครับ โดยคาดว่าน้องจ๋า จะคิดมากจนเครียดหนัก จนตัดสินใจกระโดดน้ำเพื่อฆ่าตัวตาย ซึ่งล่าสุดนายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหงวัดนครศรีธรรมราช และนางพิชานนท์ เผือกผ่อง นายกเหล่ากาชาดและประธานแม่บ้านมหาดไทย รับทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้วจะรีบเข้าเยียวยาช่วยเหลือในเช้าวันพรุ่งนี้ ( 6 เม.ย.) ทันที
ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช