(6 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเย็นวานนี้ (5 เม.ย.) นายยุทธนา แต่งวงศ์ นายกสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราชนายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางลงพื้นที่หลังได้รับการร้องเรียนจากคุณครูคุณหนึ่งใน อ.ร่อนพิบูลย์ ว่าหลานสาวอายุ 9 ขวบ ซึ่งเป็นเด็กออทิสติกถูกนายไข่ อายุ 60 ปี ที่เด็ก ๆ ในหมู่บานเรียกว่า “ตาไข่” หลอกลวงชักวนไปออกกำลังกายก่อนลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ในป่าละเมา พื้นที่ หมู่ 12 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ. นครศรีธรรมราช เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 31 มี.ค. 2566 ที่ผ่านมา และได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ร่อนพิบูลย์ เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2566 แต่คดีเงียบหายไม่คืบหน้า
โดยนายยุทธนา ฯ ได้เข้าไปพบกับ น.ส.อร 34 ปี แม่เด็กและคุณครูจา อายุ 48 ปีป้าของเด็กผู้เสียหาย รวมทั้ง น.ส.ส้ม อายุ 21 ปี เพื่อนบ้านซึ่งเห็นเหตุการณ์และถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน โดยทั้ง 3 คนได้ร่วมกันเล่าเหตุการณ์อย่างละเอียดว่า ในวันเกิดเหตุ น.ส.ส้ม ได้ขับรถ จยย.มีแม่นั่งซ้อนท้ายผ่านป่าละเมาะได้ยินเด็กร้องด้วยความเจ็บปวดและขอความช่วยเหลือออกมาจากป่าละเมาะริมถนนในหมู่บ้าน จึงจอดรถลงไปตรวจสอบพบนายไข่ ผู้ก่อเหตุ แต่งกายสวมชุดกีฬา กำลังข่มขืน ด.ญ.แดง 9 ขวบจนสำเร็จความใคร่ โดยกำลังใส่กางเกง น.ส.ส้ม จึงถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐาน และเมื่อ ด.ญ.แดง เห็น น.ส.ส้ม จึงวิ่งหนีออกมามาหาบนถนน ก่อนที่นายไข่ จะเดินตามออกมาด้วยอาการตื่นตกใจหน้าซีด น.ส.ส้ม จึงถามว่า “ลุงไข่ พา ด.ญ.แดง มาทำอะไรในป่าละเมาะ” โดยนายไข่ อ้างว่าพามาออกกำลังกาย
น.ส.ส้ม กล่าวอีกว่า ต่อมาตนได้แจ้งให้ น.ส.อร แม่ของ ด.ญ.แดงทราบเรื่อง จึงเรียก ด.ญ.แดง มาสอบถามโดย ด.ญ.แดง ได้เล่าให้หฟังอย่างละเอียดว่าโดนตาไข่ ทำอะไรอย่างไรบ้าง น.ส.อร จึงเดินทางไปแจ้งความกับตำรวจที่ สภ.ร่ทอนพิบูลย์ แต่เจาหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความอ้างว่าให้มาแจ้งในวันที่ 1 เม.ย. 2566 ตนจึงนำ ด.ญ แดง บุตรสาวไปตรวจร่างกายที่ รพ.ร่อนพิบูลย์ และเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันในวันที่ 1 เม.ย. 2566 แต่คดีไม่คืบตำรวจยังไม่ดำเนินการใด ๆ และนายไข่ ยังมีคนมาข่มขู่ส่งข้อความผ่านไลน์ว่าให้ยอมความเสนอเงินให้ 30,000 บาท น.ส.อร และคุณครูจา แม่และป้าของ ด.ญ.แดง ไม่ยอมเคลียร์ จึงร้องเรียนศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช
ทางด้านคุณครูจา เปิดเผยว่า คดีนี้หลังจากที่ทาง พ.ต.อ.ชัยรัตน์ บัวชม ผกก.สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.ฯครศรีธรรมราช ทราบเรื่องจึงกำชับสั่งการให้พนักกานสอบสวนเร่งสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานอย่างตรงไปตรงมา เพื่อออกหมายจับนายไข่ รวมทั้งดำเนินการส่งหนังสือถึง รพ.ร่อนพิบูลย์ ขอผลการตรวจร่างกาย ด.ญ.แดง และได้รับแจ้งจาก รพ.ร่อนพิบูลย์ว่าได้จัดส่งหลักฐานการตรวจร่างกาย ด.ญ.แดง ไปเข้าห้องแลปที่กรุงเทพมหานครจะทราบผลภายใน 30 วัน นอกจากนี้ได้ทำการสอบสวนปากคำ ด.ญ.แดง เหยื่อกามและประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเสนอขอหมายจับกุมนายไข่ ตาเฒ่าหื่นกามรายนี้ต่อไป ซึ่งตนและแม่ของ ด.ญ.แดง ยืนยันไม่รับเคลียร์คดีนี้ไม่ว่าจะเสนอเงินให้เท่าไหร่
คุณครูจา ป้าของเด็กน้อยเหยื่อกามกล่าวอีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นข่าวฉาวโฉ่และวิพากวิจารณ์กันทั้งตลาดร่อนพิบูลย์อย่างกว้างขวาง โดยชาวบ้านหวาดกลัวนายไข่อย่างหนัก ได้สั่งกำชับให้พ่อแม่ ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ไม่ให้ออกจากบ้านไปไหนคนเดียวเพราะเกรงจะถูกนายไข่ ดักฉุดไปข่มขืนกระทำชำเราเหมือน ด.ญ.แดง ทั้งนี้แม้ตามปกตินายไข่ เป็นคนที่มีชื่อเสียงบารมีอย่างกว้างขวาง ถือว่าเป็นผู้มีฐานะดีและมีอิทธิพลคนหนึ่งในหมู่บ้าน หลังเกิดเหตุพยายามให้คนสนิทข่มขู่ประจักษ์พยานและผู้เกี่ยวข้องไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามแม้ชาวบ้านจะเกรงกลัวบารมีอิทธิพลของนายไข่ แต่ในที่สุดทุกคนต่างรู้สึกรับไม่ได้กับพฤติกรรมหื่นกาม โดยระบุว่าการกระทำของนายไข่ ตาเฒ่าหื่นกาม เป็นการกระทำที่ชาวบ้านสุดจะทนไหวและล่วงเลยพ้นขีดความกลัวไปแล้ว จึงออกมารวมตัวกันปกป้องบุตรหลานและช่วยเหลือดูแลครอบครัวของ ด.ญ.แดง พร้อมเรียกร้องกดดันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมนายไข่ มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วอย่างตรงไปตรงมาโดยเร็วที่สุด ตำรวจจะต้องไม่เข้าด้วยช่วยเหลือผู้กระทำความผิด เพราะหากปล่อยไว้เชื่อว่าเด็กผู้หญิงในหมู่บ้านสุ่มเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อกามนายไข่อีกอย่างแน่นอน ล่าสุดทางนักสังคมสงเคราะห์ และนักจิตวิทยา ได้เข้าไปดูแลสภาพจิตใจของ ด.ญ.แดง เหยื่อกามอย่างใกลชิดแล้ว
ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช