วันศุกร์, 20 กันยายน 2567

จนมุมคาม่านรูด “เสี่ยกำมะลอ” สุดแสบลวงลักสินสอด ด้าน “บิ๊กจ๋อ” ชี้เป็นภัยร้ายของผู้หญิง

22 เม.ย. 2023
1695

วันที่ 22 เมษายน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส. บช.น. , พ.ต.อ.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. แถลงผลการปฏิบัติของ พ.ต.ต.กิติพัฒน์ ใจอารีรอบ , พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2บก.สส.บช.น. ทำการจับกุม นายปิยะศักดิ์ เรืองฤทธิ์ อายุ 45 ปี อยู่ที่ บ้านเลขที่ 74 ซ.เอกชัย 81 ต.คลองบางบอน อ.บางบอน จ.กรุงเทพฯ ข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.1400/2563 ลงวันที่ 24 พ.ย. 2563 จับได้บริเวณ ห้องพักเลขที่ 317 โรงแรม 39 อินน์ 26/5 ม.4 ซอยสุขสวัสดิ์ 39 ถนนสุขสวัสดิ์ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหามีหมายจับอีก 2 หมายจับ แคะกอบด้วย หมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่90/2566 ลงวันที่ 20 มีนาคม2566 ข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน และหมายจับศาลแขวงชลบุรี ที่41/2563 ลงวันที่16 มีนาคม 2563 ข้อหายักยอก คดีนี้สืบเนื่องจาก ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหารายนี้รู้ว่า ผู้เสียหายกำลังจะแต่งงาน มีการเตรียมทรัพย์สินเงินทองเป็นค่าสินสอดไว้ จึงเข้ามาตีสนิทกับพี่สาวของผู้เสียหาย มีการหลอกให้เชื่อว่าเป็นเจ้าของอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง มีฐานะดี และหวังอยู่กินแบบสามี-ภรรยากับพี่สาวผู้เสียหาย โดยก่อนวันก่อเหตุ 1 วัน ได้ขอเข้ามาดูห้องของผู้เสียหาย เพราะอ้างว่าจะย้ายมาอยู่กินกับพี่สาวผู้เสียหายที่อพาร์ทเมนท์เดียวกัน ต่อมาในวันที่เกิดเหตุได้เข้ามาขอยืมรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย ที่มีกุญแจคีย์การ์ดเข้าห้องของผู้เสียหาย จากนั้นได้เข้าไปลักทรัพย์สินที่เตรียมไว้เป็นสินสอด ซึ่งเก็บอยู่ในห้องดังกล่าว เป็นทองคำหนัก 14 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 2 องค์ และเงินสดอีกจำนวนหนึ่งก่อนจะหลบหนีไป

ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ได้ถูกประกาศแจ้งเตือนในสื่อสังคมออนไลน์จากหลายช่องทางให้ระมัดระวัง เนื่องจากได้ก่อเหตุในลักษณะนี้อยู่หลายครั้ง โดยเมื่อปี 2563 ผู้ต้องหาได้ไปตีสนิทหลอกผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งเป็นหญิงให้ลงทุนซื้อขายทอง มีการโอนเงิน ไปยังบัญชีผู้ก่อเหตุ รวมเป็นเงินเกือบ 8 ล้านบาท จากนั้นได้หลบหนีไป ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว และ จากการตรวจสอบในระบบ พบว่า ผู้ต้องหารายนี้ มีหมายจับอีกจำนวน 2 หมาย ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาลสามารถตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณ ห้องพักเลขที่ 317 โรงแรม 39 อินน์ ขณะกำลังหลอกหญิงสาวอีกราย ชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยรับว่าลักทรัพย์สินสอดคู้บ่าวสาวผู้เสียหายมาจริง แต่ได้คืนเป็นบางส่วนแล้ว จึงนำตัวผู้ต้องหานำส่ง พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่าขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชน ใช้ความระมัดระวังไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ที่ก่อเหตุโดยการใช้อุบายหลอกลวง สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ หลอกเป็นคนมีฐานะดี ชอบโชว์รูป สร้างโปร์ไฟล์เศรษฐีในโลกโซเชี่ยล แล้วก่อเหตุลักทรัพย์ หรือ ชักชวนให้ลงทุนเอาเงินทองไป ซึ่งครอบครัวหรือญาติพี่น้องอาจมีโอกาสตกเป็นเหยื่อได้