จากกรณีมีคลิปเผยแพร่ทางออนไลน์ มีข้อความว่า “เรื่องจริง เหตุการณ์จริง” สายตรวจหน้าเชยได้รับแจ้งจากศูนย์ 191 ให้ตรวจสอบเปิดเพลงเสียงดังกอความเดือดร้อนรำคาญ ณ. บ้านหลังหนึ่งใกล้เคียงสะพานเบญจมาฯ หลังการตรวจสอบก็ได้ยินเสียงเพลงตามในคลิป เรียกเจ้าของบ้านออกมาแต่ไม่ออกมา ตร. ทำอะไรไม่ได้เพราะเป็นยามวิกาล (00.30น.โดยประมาณ) คงต้องรอพรุ่งนี้เช้าค่อยไปอีกรอบเพื่อว่ากล่าวตักเตือน
#เปิดเพลงธรณีกันแสงตอนเที่ยงคืนเนี่ยนะเป็นใครก็นอนไม่หลับสยองไปดิค้าบบ 555 #สายตรวจตู้ยามนาเชยพร้อมกำลังร่วมตรวจสอบน้อยลง .. พร้อมกับคลิปภาพที่มีเจ้าหน้าที่สายตรวจของ สภ.เมืองจันท์ เดินทางไปยังบ้านหลังที่เกิดเหตุพร้อมถ่ายคลิปวิดีโอ
เบื้องต้น ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านปูนชั้นเดียวตั้งอยู่ริมถนน พื้นที่ ต.เกาะขวาง อ.เมือง มีรั้วรอบขอบชิด ภายในบริเวณบ้านมีสวนผลไม้อยู่ด้วย ประตูบ้านถูกปิดเงียบ
สอบถามชาวบ้านบริเวณดังกล่าวที่อยู่ใกล้เคียงให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าตนเองได้ยินเสียงเพลงบ่อยมาก บางครั้งเปิดทั้งวันตั้งแต่เช้า บางครั้งเปิดช่วงดึกเที่ยงคืนตีหนึ่งตีสองก็มี ตนเองมีความคิดเห็นว่าเพลงธรณีกรรแสง ไม่สมควรนำมาเปิดแบบนี้ และไม่เป็นเพลงที่น่าจะนำมาเปิดด้วย ทำให้รู้สึกหลอนด้วย และตนเองได้โทรศัพท์ไปร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่มาระงับเหตุแล้วเจอกันหลายครั้ง
ทางด้านนายบุญยืน บุญมา อายุ 75 ปี ได้ให้ข้อมูลสอดคล้องกันว่าตนเองก็ได้ยินเสียงเพลงแบบนี้มานานแล้วเหมือนกัน ครั้งแรกก็คิดว่าเป็นงานศพ มีบางครั้งที่เปิดเสียงหมาหอน แล้วก็ต่อด้วยเพลงธรณีกรรแสง
ทั้งด้าน พันตำรวจตรี เอนก พรหมศร รักษาราชการตำแหน่งสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองจันท์ ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่าหลังจากที่ได้รับแจ้งทาง 191 นั้น ทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจตู้ยามหน้าเชย เดินทางไปตรวจสอบทันทีแต่ไม่สามารถคุยกับเจ้าของบ้านได้เนื่องจากเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวไม่ยอมออกมาพบ
ให้สายตรวจพยายามเวียนไปเจรจาแต่ก็ยังไม่พบตัว โดยได้ประสานกับญาติของผู้ที่อยู่ในบ้านดังกล่าวแล้วและกำลังดำเนินการประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่างเช่นสาธารณสุข เพื่อเข้าไปทำการเจรจาต่อไป ส่วนเจ้าหน้าที่สายตรวจที่เข้าไประงับเหตุตามคลิปภาพ ให้ข้อมูลว่าตนเองเข้าไปในที่เกิดเหตุพยายามเรียกเจ้าของบ้านออกมาแต่ไม่มีการตอบรับ ตนเองจึงพยายามใช้วิธีกดดันด้วยการเปิดสัญญาณไฟวั๊บวาบ เมื่อผู้อยู่ในบ้านเห็นเค้าก็เบาเสียงเพลงลงและปิดในที่สุด
สมเศียร โชติสนิท ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดจันทบุรี