(4 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การหาเสียงทางการเมืองเลือกตั้ง 2566 ในจังหวัดนครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 4 (อ.ชะอวด ,อ.เชียรใหญ่ และ อ.เฉลิมพระเกียรติ) ซึ่งในช่วงแรกกระแสของนายณัฐกิตต์ หนูรอด ผู้สมัครเบอร์ 7 พรรคภูมิใจไทย และนายยุทธการ รัตนมาศ ผู้สมัครเบอร์ 4 ปชป. สองผู้สมัครที่เป็นคนพื้นเพ อ.ชะอวด จะมีกระแสความนิยมในพื้นที่ อ.ชะอวดค่อนข้างสูง โดย อ.ชะอวด ประชากรมากถึง 85,521 คน ในขณะที่ อ.จุฬาภรณ์ ประชากร 31,198คน กับ อ.เชียรใหญ่ที่มีประชากร 41,835 คน รวมกัน 73,033 ยังน้อยกว่า อ.ชะอวดอำเภอเดียว ในส่วน “อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตแชมป์จากค่ายพลังประชารัฐ กระแสหดหายไปอย่างไม่น่าเชื่อ
อย่างไรก็ตามหลังการตะลุยหาเสียงกันอย่างหนัก มีการยิงกระสุนห้ำหั่นกันชนิดต่อต่อตาฟันต่อฟันกลับปรากฏว่านายพงศ์สินธุ์ เบอร์ 10 น้องชายของ “เทพไท เสนพงศ์ อดีตผู้สมัคร ปชป.ในการเลือกตั้งซ่อมแทน “เทพไท” ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองและพ่ายแพ้ให้ “อาญาสิทธิ์ จากค่ายพลังประชารัฐ ไปอย่างฉิวเฉียดแค่ 4,069 คะแนนด้วยคะแนน 48,701 ต่อ 44,632 คะแนน ในเที่ยวนี้ย้ายมาสังกัด รทสช.และมีคะแนนนิยมสูงอยู่ในบ้านเกิด “เชียรใหญ่-เฉลิมพระเกียรติ” ทำพท่าว่าจะกลับมาสวมบท “ตาอยู่” คว้าพุงปลามากิน เพราะกระแสความนิยมใน อ.ชะอวด เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่รู้สึกว่าการที่ “พงศ์สินธุ์” ถูกเขี่ยกระเด็นพ้นจาก ปชป.อย่างสุดเจ็บปวดทั้ง ๆ ที่มีคะแนนรองรังจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้วมากถึง 44,632 คะแนน มันมีเบื้องหน้าเบื้องหลังและเป็นการรังแกกันอย่างชัดเจน จึงเกิดเป็นกระแสคะแนนสงสารจากการถูกรังแก ในครั้งนี้ความรู้สึกของคน อ.ชะอวด ว่ากันว่าหาก “พงศ์สินธุ์” สามารถรักษาคะแนนใน อ.ชะอวดจากการเลือกตั้งซ่อม 44,632 คะแนนเอาไว้ให้ได้สักแค่ 20,000-25,000 คะแนน แล้วไปบวกกับคะแนนของ อ.เชียรใหญ่ -เฉลิมพระเกียรติบ้านเกิดรวมกันอีกสัก 20,000 คะแนนก็จะคว้าชัยชนะเป็น ส.ส.ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เพราะในสองอำเภอดังกล่าวพงศ์สินธุ์ มีคะแนนนำแบบสุดกู่ โดยผู้สมัครทุกคน ทุกพรรคแค่ทำให้ได้ 2-3 พันคะแนนก็เป็นเรื่องยากเหมือนเข็ญครกขึ้นภูเขา
แต่เมื่อมาถึงช่วงโค้งสุดท้าย 9-10 วันก่อนการเลือกตั้งกลับพบว่า “เสี่ยอ่าง”สมศักดิ์ เมธา เบอร์ 5 จากค่าย “เพื่อไทย” ที่จะออกตะลุยหาเสียงหามรุ่งหามค่ำจนว่ากันว่าในพื้นที่ อ.ชะอวด มีกระแสความนิยมพุ่งพรวดพราดจนขึ้นมาทาบ “พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์” ชนิดหายใจรดต้นคอ และหลายเป็นว่าเขต 4 เหลือผู้สมัคร 2 คนจากค่าย รทสช..และ เพื่อไทย ที่จะมีโอกาสคว้าชัยชนะพอ ๆ กัน อยู่ว่าใครจะมีแรงฮึดกระโจนเข้าเส้นชัยไปในที่สุด
โดยในการลงพื้นที่หาเสียง ตามตลาดนัด ตลาดสดใน 3 อำเภอ “พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ และ“เสี่ยอ่าง”สมศักดิ์”มีโอกาสพบเจอกันบ่อยครั้ง โดยทั้งสองต่างก็มีอัธยาศัยไมตรีเข้าไปจับมือทักทาย ถ่ายรูปร่วมกันและอวยพรให้แก่กันให้ประสบชัยชนะในการเลือกตั้ง บรรดาคอการเมืองในระดับภาคใต้มองว่า “เสี่ยอ่าง สมศักดิ์ เมธา แม้จะไม่ได้เป็นนักการเมืองใด ๆ แต่เป็นคนที่มีจิตอาสาเพื่อส่วนรวมเป็นที่ประจักษ์ของชาว อ.ชะอวด และชาวนครศรีธรรมราชมายาวนานกว่า 10 ปี สร้างโรงเรียน ตชด.ในพื้นที่ ต.วังอ่าง อ.ชะอวด ,การสร้างศาลาริมถนนศาลาริมถนนทั่วอำเภอ สร้างถนนสาธารณะหลายสาย มอบทุนการศึกษานักเรียนเรียนดีแต่ยากจน สร้างบ้านให้ผู้ยากไร้ต่อเนื่องรวมกว่า 40 หลัง รวมใช้งบประมาณกลายสิบล้านล้วนเป็นงบประมาณส่วนตัวทั้งสิ้น
และในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ทำให้ผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะ “มังคุด”ตกต่ำเหลือ กก.ละ 3-4 บาท เสี่ยอ่างสมศักดิ์ เมธา ยังควักเงินส่วนตัวซื้อมังคุดของเกษตรกรในราคา กก.ละ 7-8 บาทเพื่อเป็นการแทรกแซงกระตุ้นราคาจำนวนมากมากถุง 5 ตันและแจกจ่ายฟรีไปยังโรงเรียน โรงพยาบาลและหมู่ประชาชนทั่วไป ทำให้ราคามังคุดขยับขึ้นทันทีเป็น 14 บาท/ กก และยังประกอบอาหารจัดเลี้ยงชาวบ้านทั้งหมู่บ้านอาทิตย์ละ 1 ครั้งใช้งบประมาณ 2 แสนบาท/อาทิตย์ หมดเงินไปอีกหลายล้าน ผลงานดังกล่าวสร้างความประทับใจให้กับประชาชน อ.ชะอวด เป็นอย่างมากและนับว่าเป็นผลงานที่ไม่มีใครลบล้างได้ และเมื่อบวกกับกระสุนปืนใหญ่นัดสุดท้ายที่เสี่ยอ่างก็ใจถึงพร้อมยิงตลอดเวลาก็น่าจะช่วยประคับประคองส่งให้ “เสี่ยอ่าง”สมศักดิ์ เมธา คว้าชัยชนะเข้าสภาผู้แทนราษฏรไปได้อย่างฉิวเฉียดชนิดเส้นยาแดงผ่าแปดในที่สุด
ในขณะที่ผู้ติดตามการเมืองในพื้นที่เขต 4 นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในวันที่ 11 พ.ค.นี้พรรครวมไทยสร้างชาติ นำโดย “ลุงตู่” จัดเวทีปราศรัยใหญ่ทิ้งทวนกลางสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช โดยระดมแกนนำพรรค มาปราศรัยช่วยผู้สมัคร 10 เขตของเมืองคอน แน่นอนว่ากระแสคะแนนของ “พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์” แห่งค่าย รทสช. คงจะทิ้งห่าง “เสี่ยอ่าง” สมศักดิ์ เมธา ออกไปมากพอสมควร และหาก “เสี่ยอ่าง” ปล่อยไปเฉย ๆ จนถึงวันเลือกตั้งโดยไม่คิดแก้เกมส์ใด ๆ “พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์” จะชนะการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
“แต่หากก่อนวันเลือกตั้ง 14 พ.ค. หาก “เสี่ยอ่าง”และพรรคเพื่อไทย จัดเวทีปราศรัยระดับเขตพื้นที่ ใน อ.ชะอวด ทิ้งท้าย ทิ้งทวน ปิดกล่องก่อนเข้าคูหาเลือกตั้ง เชื่อว่า “เสี่ยอ่าง” จะกลับมาเบียดเข้าเส้นชัยได้ไม่ยากนัก”
ไพฑูรย์ อินทศิลา/นครศรีธรรมราช