(13 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อคืนที่ผ่านมานายอำนวย ยุติธรรม ผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 9 เบอร์ 8 พรรค รทสช.จ.นครศรีธรรมราช ได้เปิดเวทีปราศรัยทางการเมืองทิ้งทวน “เลือกความสงบ จบที่อำนวย” โดยมีนายสายัณห์ ยุติธรรม อดีต ส.ส.และผู้สมัคร เขต 2 รทสช.พี่ชายมาช่วยขึ้นเวทีปราศรับ รวมทั้งนายโกวิทย์ พวงงาม นายวิฑูร กรุณา ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อและแกนนำชาวใน อ.ท่าศาลา เป็นผู้พิการขา ฯและเป็นนักสู้ชื่อดัง ได้ใช้ไม้เท้าถ่อสังขารขึ้นเวทีช่วยปราศรัยช่วยหาเสียงอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อนด้วย ท่ามกลางประชาชนที่สนใจมาร่วมรับฟังการปราศรัยกว่า 3,000 คน โดยมีกลุ่มชาวบ้านจขาก ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา บ้านเกิด สายัณห์-อำนวย” ได้นำผ้าขาวม้า “ ตาพรานบุญ” วัดยางใหญ่” จำนวนหลายสิบผืนมารุมคาดเอวให้นายอำนวย เพื่อความเป็นสิริมงคลและจะชนะการเลือกตั้งเป็น ส.ส.ต่อไป
โดยนายสายัณห์ กล่าวว่า ตนไม่ลังเลใจที่จะมาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ แม้จะเคยเป็น ส.ส.พรรคพลังประชาชนรัฐ เขต 7 มาก่อน “ ตนรักลุงป้อมเหมือนพ่อ รักลุงตู่เหมือนแม่” แต่ ตามปกติคุณแม่ตั้งท้องเกิดเรามาเรากจะกินนมแม่ก่อน หากพ่อแม่แยกทางกัน จึงเลือกแม่อยู่กับลุงตู่ ซึ่งเป็นแม่ คงไม่ผิดกตรงไหน อละตนมั่นใจว่าลุงตู่ จะได้รับการเลือกตั้งและเข้าไปเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง และตนกจะได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.อีกสมัยตามลุงตู่เข้าสภาอย่างแน่นอน เพียงแต่เมื่อก่อนตนเป็น ส.ส.ในพื้นที่นี้ซึ่งในครั้งที่แล้วเป็น เขต 7 เพราะการเลือกตั้ง ปี 2562 มี 8 เขต แต่ในครั้งนี้นครศรีธรรมราช เพิ่มเป็น 10 เขต ทางพรรคมีมติให้ตนเปลี่ยนไปลงเขต 2 เพราะมีพื้นที่เขต 7 เดิมอยู่เกินครึ่ง ในเขต 2 ทั้งพื้นที่เก่า และพื้นที่ใหม่ประชาชนตอนรับตนอย่างดีมาก ๆ ส่วนเขตนี้ทางพรรคเลือกนายอำนวย ยุติธรรม น้องชายตนลงสมัครแทน ก็ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดีเยี่ยมเช่นกัน
“ลุงตู่มาปราศรัยในภาคใต้ โดยเฉพาะที่ภูเก็ตและนครศรีธรรมราช ตนกับนายอำนวยเข้าพบพูดคุยกับท่าน ลุงตู่ตบไหล่ผมทั้งสองบอกว่า “พี่น้องยุติธรรม จะชนะเข้าสภถาทั้ง 2 คน”เพื่อไปยกมือโหรตเลือกลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ในครั้งที่แล้ว ตนลงสมัคร เขต 7 จับได้เบอร์ 2 มาในครั้งนี้ เปลี่ยนมาลงเขต 2 จับได้เบอร์ 7 ซึ่งรวมเป็น 9 เหมือนกัน ชนะเป็น ส.ส.เหมือนกันอย่างแน่นอน”
ในขณะที่นายอำนวย ยุติธรรม กล่าวว่า ตลอดการหาเสียงหลังจากตนได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการพรรคเป็นคนสุดท้ายเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2566 และให้เป็นผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 (ท่าศาลา ( 6 ตำบล) พรหมคีรี และ อ.นบพิตำ )ตนก็เริ่มลงพื้นที่แนะนำตัวทันที หลังการสมัครก็เปิดเวทีปราศรัยมาทุกพื้นที่ในเขต ตนชอบการทำการเมืองแบบเก่า ๆการลงพื้นที่พบปะประชาชนรวมทั้งการเปิดเวทีปราศรัยต่อเนื่อง ตนยืนยันที่นายสายัณห์ พี่ชายบอกว่า “ลุงตู่ อยู่ไหน สายัณห์ อยู่นั่น” และสำหรับ ตนอำนวย ยุติธรรม “ ลุงตู่ -สายัณห์อยู่ไหน อำนวยก็อยู่นั่น” โดยการหาเสียงมาถึงจุดหนึ่งผู้สมัครจาก 2 พรรคการเมืองมีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ลามมาถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ มีการประกาศจะยิง จะฆ่า จะแกงกัน เป็นที่จับตาวิพวกวิจารณ์ว่าต่อไปท่าศาลาที่ได้ชื่อว่าเมืองมหาวิทยาลัย เพราะเป็นที่ตั้งของ ม.วลัยลักษณ์ เรื่องจะลุกลามบานปลายส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์เมืองน่าอยู่ ศูนย์กลางเมืองมหาวิทยาลัย หรือไม่
“เพราะฉะนั้นขอให้ชาวท่าศาลา พรหมคีรี นบพิตำ ที่เชื่อว่าทุกคนต้องการความสงบเรียบร้อย ขอให้ไว้วางใจตน “เลือกความสงบ จบที่อำนวย” เลือกตนตนสัญญาว่าจะไม่นำอำนาจ ที่ได้จากประชาชนไปสร้างอิทธิพล ให้ตัวเองและพวกพ้อง นำไปทำผิดลักษระสีเทา สีดำ ผิดกฎหมายสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน “
นายอำนวย กล่าว่า ตอนลุงตู่เป็นรัฐบาล 4 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีรัฐบาลไหน นายกคนไหนให้ความสำคัญกับนครศรีธรรมราช ผ่านโครงกาคต่าง ๆ มาทางนยายสายัณห์ ยุติธรรม และ ส.ส.พปชร.จำนวนมาก รวมกันกว่า 37,000 ล้ารบาทและเป็นรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศไทยที่มีโครงการ “รัฐสวัสดิการ” ออกบัตรประชารัฐ แจกเงินช่วยเหลือระดับรากหญ้า หากลุงตู่ เป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งต่อไปจะขึ้นบัตรประชารัฐเดือนละ 300 บาทเป็นเดือนละ 1,000 บาท และที่สำคัญบัตรประชารัฐ จะใช้ค้ำประกันเงินกู้รายละ 10,000 บาทได้อีกดด้วยไม่ต้องกู้เงินนอกระบบจนถูกไอ้โม่งตามทวงหนี้ต้องหลบหนีไอ้โม่งหัวซุกหัวซุน ดังนั้นวันที่ 14 พ.ค. เขต 9 เลือกความสงบจบที่อำนวย “ เลือกตนเบอร์ 8 และเลือกลุงตู่เบอร์ 22 ส่วน เขต 2 เลือก สายัณห์ ยุติธรรม เบอร์ 7 สรุปจบ สายัณห์และตนเป็น ส.ส.รทสช. เท่ากับ “ลุงตู่”เป็นยายก ฯทำโครงการเพื่อประชาชนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงทางตรงก่อนการเลือกตั้ง 14 พ.ค. หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จนทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี รทสช.นำทีมลงพื้นยที่จังหวัดนครศรีธรรมราช 5-6 จุด ก่อนเปิดปราศรัยใหญ่กลางสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช ท่ามกลางประชาชนจากทั่วจังหวัดแห่มารับฟังแน่นศาลากลางจังหวัดกว่าครึ่งแสนคน มากที่สุดกว่าทุกพรรคการเมืองที่ยึดสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราชปราศรัยใหญ่ ทำให้กระแสของพรรค รทสช.พุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนคอกหารเมืองระบุว่าเมื่อถึงวันเลือกตั้งจะเหลือเพียง 2 พรรคการมืองที่จะชิงดำกันเข้าสภา คือ “ปชป.กับ รทสช.” ที่อาจจะแย่งกันในเข้าสภา มีเพียง 2 เขตเท่านั้นที่พรรคอื่น ๆ นอกจาก 2 พรรคนี้พอจะมีความหวัง ที่สำคัญต่างจับตาสองเขตเลือกตั้งคือ เขต 2 กับเขต 9 ซึ่งมีสองพี่น้องตระกูลยุติธรรมเป็นผู้สมัครอาจจะคว้าชัยชนะได้ทั้ง 2 เขตสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในนครศรีธรรมราชอีกครั้ง จึงต้องจับตา “คืนหมาหอน” ที่ทีมงานผู้สมัครแต่ละพรรคจะลงพื้นที่แจกเงินซื้อเสียงกันตลอดทั้งคืน ซึ่งตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (12 พ.ค.) มีการปล่อยข่าวว่า กกต.และตำรวจจับผู้สมัคร และทีมหาเสียงของพรรคนั่น พรรคนี่ เขตนั้น เขตนี่ กันต่อเนื่อง
ไพฑูรย์ อินทศิลา/นครศรีธรรมราช