(23 พ.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 12.10 น.วันที่ 22 พค.2566 พ.ต.ท.เมธี พาชื่นใจ สว.(สอบสวน)สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันตายในสวนทุเรียน หมู่บ้านหนับเภา หมู่ 8 ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งแล้วจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น แล้วจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ ผกก.,พ.ต.ท.นรากร เอียดช่วย รอง ผกก.ป.,พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ จำปาทอง รอง ผกก.(สอบสวน),พ.ต.ท.ปิยะวัฒน์ สุพรรณพงศ์ รอง ผกก.สส.,กำลังตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.ท่าศาลา,มูลนิธิประชาร่วมใจ อ.ท่าศาลา ไปที่เกิดเหตุเพื่อร่วมกับสอบสวนและชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ในสวนทุเรียน ริมถนนสายหนับเภา-ท่าขึ้น บริเวณพื้นดินหน้าบ้านไม่มีเลขที่ภายในทุเรียน พบศพผู้ตายชื่อ น.ส.จันทราวรรณ หรือเจี๊ยบ บุณเศียร อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 214/1 หมู่ ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพนอนตะแคงซ้ายในชุดชาวสวนเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงวอร์มสีดำ ขายาว รองเท้าผ้าใบสีขาว สวมหมวกผ้า สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม.เข้าบริเวณหน้าอกซ้ายทะลุแขน1นัดและชายโครงซ้ายทะลุหลัง1นัด บริเวณที่เกิดเหตุ จนท.ใกล้ศพพบปลอกกระสุนปืน 11 มม.ตกอยู่จำนวน 2 ปลอก และกระสุน11 มม.ตกอยู่ 1 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานต่อไป ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุทราบว่านายสุชาติ บุณเศียร อายุ 67 ปี พ่อของผู้เสียชีวิตได้แย่งจากมือของคนก่อเหตุมาได้ และมอบให้กับตำรวจ ไว้ให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบต่อไป
ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ใช่ใคร ไหนแต่เป็นน้องชายของผู้ตายนั่นเอง สอบสวนทราบชื่อนายภูวกร หรือจอม บุณเศียร อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 8 ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งหลังก่อเหตุยิงพี่สาวตัวเองตาย ได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อ BMW สีขาว ทะเบียน ขข-8345 นครศรีธรรมราช หลบหนีมุ่งหน้าเข้าตัว อ.ท่าศาลาและ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งล่าสุดทราบว่าได้ติดต่อจะเข้ามอบตัวกับตำรว จสภ.ท่าศาลาแล้ว อยู่ระหว่างการประสานเข้ามอบตัว
สอบสวนเบื้องทราบว่าก่อนเกิดเหตุ น.ส.จันทราวรรณ ผู้ตาย พร้อมด้วย นายภูวกร หรือจอม น้องชาย ซึ่งเป็นมือปืน และนายสุชาติ ผู้เป็นพ่อได้นัดหมายกันมาที่บริเวณบ้านในสวนทุเรียนที่เกิดเหตุเพื่อพูดคุยตกลงเรื่องการแบ่งมรดกที่ดินสวนทุเรียนแปลงหนึ่ง เนื้อที่ 10 ไร่ ซึ่งเป็นของแม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่ปรากฏว่าการเจรจาพูดคุยกันตกลงกันไม่ได้ จึงทำให้มีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงทำให้นายภูวกรหรือจอม น้องชายเกิดความโมโหชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่ร่างพี่สาวจำนวน 2 นัดซ้อนทำให้ร่าง น.ส.จันทราวรรณ หรือเจี๊ยบ ล้มฟุบจมกองเลือดเสียชีวิตคาที่ทันที ระหว่างนั้นนายสุชาติผู้เป็นพ่อได้เข้าไปแย่งปืนจากมือนายภูวรกรหรือจอม ลูกสาวมาได้ ก่อนที่นายภูวกร หรือจอม มือปืน จะวิ่งไปขับรถยนต์เก๋งBMWคันดังกล่าวหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งทางตำรวจได้วิทยุสกัดจับเส้นทางต่าง ๆ แต่ยังไร้วี่แวว
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00น.วันที่ 22 พค.2566 นายภูวกรหรือจอม บุณเศียร อายุ 34 ปี ผู้ต้องหา ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ ผกก.สภ.ท่าศาลา และ พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ จำปาทอง รอง ผกก.สอบสวน สภ.ท่าศาลา และ พ.ต.ท.นรากร เอียดช่วย รอง ผกก.ป.สภ.ท่าศาลา โดยยอมรับสารภาพทำไปเพราะอารณ์ชั่ววูบ โดยทะเลาะกันในเรื่องปัญหาแย่งมรดกที่ดินกับพี่สาวแต่ตกลงกันไม่ได้มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ทำให้โมโหชักปืนยิงพี่สาวจำนวน 2 นัดซ้อน จนตายดังกล่าว จนมีพ่อมาห้ามและแย่งปืนกลับไป โดยหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปไหน แต่ได้ไปตั้งสติที่บ้านพักในหมู่บ้านเดียวกันก่อนเข้ามอบตัวสู่คดีดังกล่าว.
ในขณะที่ น.ส.รัตตินันท์ หลีพรกิตติกุล อายุ 33 ปี เมียสาวของมือปืน ซึ่งพานายภูวกร หรือจอม เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.ท่าศาลา ได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้สื่อข่าว โดยบอกว่าขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจต่อไป
ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช