(31 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสัตวแพทย์พรภิรมย์ ฟุ้งตระกูล ปศุสัตว์จังหวัดพังงา สัตวแพทย์อาวุโส สัตวแพทย์อาสามูลนิธิเพื่อนช้าง ประจำภาคใต้ เดินทางไปยังบ้านหวายช่อ หมู่ 11 ต.กรุงชิง อ.นพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อช่วยเหลือรักษา “พลายเงิน” ช้างบ้านที่เจ้าของล่ามโซ่ไว้ริมป่าถูก “ไอ้ไข่นุ้ย” ช้างป่าเทือกเขาหลวงจอมเกเร ลงมาจากป่าเทือกเขาหลวงเข้าทำร้ายโดนพลายเงินถูกพลายไขนุ้ยใช้งาแทงจนเป็นแผลใหญ่หลายรู พลายเงินได้รับบาดเจ็บค่อนข้างสาหัส เหตุเมื่อคืนวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยหลังจากเกิดเหตุเจ้าของช้างโทรแจ้งขอความช่วยเหลือนายสัตวแพทย์พรภิรมย์ ฟุ้งตระกูล ที่เคยดูแลช่วยเหลือรักษาช้างและสัตว์ใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราชและภาคใต้มาตลอดกว่า 20 ปี พร้อมทีมงานเดินทางมาตรวจรักษาพลายเงินตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยทำการฉีดยาฆ่าเชื้อและยารักษาบาดแผล พร้อมฉีดยาบำรุงให้พลายเงินยืนและปฏิบัติตามคำสั่งของควาญช้างในการรักษาด้วยน้ำตาซึม อย่างน่าเอ็นดูสงสาร
นายสัตวแพทย์พรภิรมย์ ฟุ้งตระกูล ได้โพสต์ภาพการรักษาช้างพลายเงิน พร้อมข้อความว่า “ช้างชนช้าง งานด่วนตั้งแต่เช้าช้างเลี้ยงพลายเงินถูกช้างป่าไอัไข่นุ้ยตัวดังลงมาทำร้ายแทงไปหลายรู ปัญหาใหญ่ของคนกรุงชิง ได้แต่ขอภาวนาว่าชนช้างพอไหวชนคนเมื่อไหร่ละใครจะรับผิดชอบเหตุเมื่อคืนครับที่ หมู่ 11 ต. กรงชิง อ. นบพิตำ”
สำหรับช้าง “พลายไข่นุ้ย” เป็นช้างหนุ่มที่อาศัยอยู่ในป่าเทอกเขาหลวงเขตรอยต่อจังหวัดสุราษฏร์ธานีกับจังหวัดนครศรีธรรมราช พลายขานุ้ยขนาดตัวใหญ่มาก และมีนิสัยเกเร ดุร้าย เมื่อก่อนอาศัยอยู่ร่วมโขลงที่มีช้างป่ารวมกันอยู่หลายสิบตัว แต่เนื่องจากพลายไข่นุ้ยมีนิสัยเกเร จึงถูกเพื่อนร่วมโขลงกดดันจนต้องออกจากโขลงมาบินเดี่ยว และชอบออกจากป่าลงมาในพื้นที่อาศัยของมนุษย์ เข้าทำลายพืชผลทางการเกษตร วัสดุอุปกรณ์ทางการเกษตร รวมทั้งบ้านที่อยู่อาศัยของเกษตรกรในพื้นที่หลายหมู่บ้านของ ต.กรุงชิง ต.นาเหรง อ.นบพิตำ และ ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นอย่างมาก ในบางช่วงประชาชนไม่กล้าออกจากบ้านไปกรีดยางหรือประกอบอาชีพการเกษตรอื่น ๆ เพราะเกรงจะออกพบเจอกับพลายไข่นุ้ยเสี่ยงถูกทำร้ายบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ ที่สำคัญมีชาวบ้านที่ทำสวนยางพารา และทำการเกษตรอยู่ในพื้นที่หลายคนเคยเจอกับช้างพลายไข่นุ้ย และถูกพลายไข่นุ้ยไล่กระทืบ ทำร้ายจนต้องวิ่งหนีกระเจิงรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด จึงไม่มีใครอยากจะพบเจอพลายไข่นุ้ย จอมเกเรเชือกดังกล่าว
สำหรับปัญหา “ช้างพลาไข่นุ้ย”ออกจากป่าอาละวาดทำลายผลอาสิน ทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานเกือบ 10 ปีแล้ว ซึ่งได้มีการรายงานและร้องขอความช่วยเหลือจากจังหวัด อำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด แต่เจ้าหน้าที่ทำได้แค่การผลักดันออกจากพื้นที่ทำมาหากินของชาวบ้านได้เพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เพียงไม่ไม่กี่วันพลายไข่นุ้ยก็จะออกจากป่าลงมาสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเหมือนเดิม คนในพื้นที่อาศัยอยู่กันอย่างหวาดผวาหนักและเผชิญชะตากรรมมาโดยตลอดและเรียกร้องให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องลงมาแก้ไขปัญหาอย่างเด็ดขาดถาวรให้เสียที เพราะในแต่ละปีช้างพลายไข่นุ้ยจะลงมาอาละวาดสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน 4-5 เดือนเลยทีเดียว ประชาชนไม่สามารถอาศัยและประกอบอาชีพได้ตามปกติ โดยข่าวคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป
ไพฑูรย์ อินทศิลา / นครศรีธรรมราช