พ่อเฒ่าเมืองคอนวัย 63 ปี ร้องสื่อแก๊งทวงหนี้อุ้มลูกสาวเรียกค่าไถ่กลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรีกว่า 2 เดือนยังไม่ทราบชะตากรรม โดยอดีตลูกเขยยอมโอนเงินให้หลายครั้งรวมกว่า 1.5 แสน แต่แก๊งทวงหนี้ยังไม่ยอมปล่อยตัววิงวอนสื่อช่วยเหลือโดยเร่งด่วน

(16 ก.ย.) นายประทุม บุญทอง อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 239/5 หมู่ 9 ตำบลปริก อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือ กับศูนย์ข่าวนคร 24 ชั่วโมง สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขอให้ช่วยตามหาลูกสาวชื่อนางสาวพรหมจารีย์ บุญทอง หรือ “แอน หรือเมล์” อายุ 40 ปี ซึ่งทำงานโรงแรมแห่งหนึ่งใน พัทยาจังหวัดชลบุรี โดยอ้างว่านางสาวพรหมจารีย์ บุญทองลูกสาวถูกแก๊งทวงหนี้อุ้มไปเรียกค่าไถ่หายไปไม่สามารถติดต่อได้เงียบหายไปกว่า 2 เดือนแล้ว และ ได้รับแจ้งจากอดีตลูกเขยว่าแก๊งทวงหนี้ได้โทรมาข่มขู่ให้โอนเงินไปให้แก๊งทวงหนี้ หากโอนไปให้นางพรหมจารีย์ บุตรสาวตนจะถูกทำร้ายหรือฆ่าให้ตาย
โดย นายวุฒิชัย ชาวกะมุดอดีต สามีของนางสาวพรหมจารีย์อดีตลูกเขยตนได้ติดต่อตน ผ่านทาง Facebook ของลูกสาวตนอีกคนซึ่งเป็นน้องสาวของนางสาวพรหมจารีย์ ที่อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช อ้างว่าถูกแก๊งทวงหนี้โทรศัพท์มาข่มขู่เรียกค่าไถ่ตัวนางสาวพรหมจารีย์ หากไม่โอนเงินไปให้ จะทำร้ายหรือฆ่านางสาวพรหมจารีย์ ทิ้งนายวุฒิชัย อดีตสามีนางสาวพรหมจารีย์ ยินยอมโอนเงินไปให้แก๊งทวงหนี้หลายครั้งรวมกว่า 1.5 แสน แต่แก๊งทวงหนี้ที่อุ้มนางพรหมจารย์ ยังไม่ยอมปล่อยตัวบุตรสาวตน จนถึงกันในนี้ยังเงียบหายไม่สามารถติดต่อทางช่องทางใด ๆ ได้ตนเป็นห่วงมาก และอยากจะเดินทางขึ้นไปพัทยาเพื่อประสานงานติดต่อตามหานางสาวพรหมจารีย์ บุตรสาวด้วยตัวเอง แต่ฐานะยากจนตนไม่มีเงินมากเพียงพอที่จะเดินทาง ไปพัทยาจังหวัดชลบุรี จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด จึงอยากวิงวอนขอร้องให้สื่อมวลชนทุกแขนงทุกสังกัดช่วยเป็นสื่อกลางในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามหาตัวนางสาวพรหมจารีย์ บุญทอง บุตรสาวของตนให้ด้วยเถิด
นายประทุม บุญทอง ยังกล่าวอีกว่า ซึ่งก่อนหน้านี้นางสาวพรหมจารี บุตรสาวได้ ส่งข้อความแชท Facebook นายไตรภพ ชาวกะมุด อายุ 20 ปี บุตรชายของนางสาวพรหมจารีย์ ที่ทำงานอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต มีข้อความระบุว่า “แม่ติดหนี้พ่อไว้มากเลยตอนนี้ จนไม่อยากติดต่อใครแล้วแม่อยากอยู่ตัวคนเดียวสักพักนะ ขอโทษด้วยตอนนี้อยู่อย่างไม่ต่างกับสุนัขแล้ว แม่ขอโทษด้วยนะลูกแม่รักลูกนะ” โดยนายไตรภพ บุตรชาย ได้ส่งข้อความบอกว่า”รับโทรศัพท์ที แต่นางพรหมจารีส่งข้อความกลับมาว่า “รับไม่ได้หรอก” นายไตรภพ ถามว่า “ทำไม” นางพรหมจารีบอกว่า “โทรศัพท์พังไปหมดแล้วพูดอะไรกับใครไม่ได้ยินไม่ต้องห่วงแม่นะ” นายไตรภพ ถามว่า “อยู่ไหน” นางสาวพรหมจารีย์ตอบว่า “แม่ยังหายใจ”อยู่ นายไตรภพ พบถามย้ำว่า“อยู่ไหน”จากนั้นก็หายเงียบไปติดต่อช่องทางใดไม่ได้อีกเลย
ในขณะนางสาวบุญรักษา บุญทอง พี่สาวของนางสาวพรหมจารีย์ ซึ่งอาศัยอยู่กับนาย ประทุม ผู้เป็นพ่อที่อำเภอทุ่งใหญ่ กล่าวว่า สาวพรหมจารีย์สาวของตน ทำงานโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองพัทยาจังหวัดชลบุรี และอยู่กินฉันสามีภรรยากับนายวุฒิชัย ชาวกะมุด จนมีลูกชาย 1 คนปัจจุบันลูกชายมาทำงานและมีครอบครัวอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ทราบว่านางสาวพรหมจารีย์น้องสาวตน เป็นหนี้นอกระบบหลายแสนบาท จนมีปัญหาครอบครัวต้องแยกกันอยู่กับนายวุฒิชัยสามี แต่นายวุฒิชัย ก็ยังดูแลช่วยเหลือเรื่องเงินทองค่าใช้จ่ายและช่วยจ่ายหนี้สินนอกระบบให้บางส่วน แต่คาดว่านางสาวพรหมจารีย์ น้องสาวตนน่าจะเป็นหนี้นอกระบบก้อนใหญ่ ที่ยังไม่สามารถเคลียร์ได้หมด จึงถูกแก๊งทวงหนี้ตามทวงหนี้และอุ้มตัวหายไปดังกล่าว
“ ซึ่งแก๊งทวงหนี้ได้มีการ ใช้ Facebook “คน นอก โลก”ของนางสาวพรหมจารีย์ น้องสาวตนติดต่อนายวุฒิชัย อดีตสามี ข่มขู่ให้โอนเงินไปให้หลายครั้งรวมกว่า 1.5 แสนบาท และยังข่มขู่ให้โอนเงินไปให้อีก แต่นายวุฒิชัย อดีตสามีพี่สาวไม่มีเงินโอนให้แก๊งทวงหนี้อีก และขาดการติดต่อไปโดยปริยาย ในขณะนี้ตนและญาติ ๆ ไม่สามารถประสานงานติดต่อกับนางสาวพรหมจารีย์ ผ่านช่องทางใด ๆได้ลย เกรงว่าแก๊งทวงหนี้จะทำร้ายทรมานหรือฆ่านางสาวพรหมจารีย์ น้องสาวจนตายไปแล้วก็ได้ ตนและพ่อรวมทั้งญาติ ๆ พร้อมลูกชายของนางสาวพรหมจารีย์ ต่างรู้สึกเป็นห่วงนางสาวพรหมจารีย์ โดยเฉพาะพ่อร้องห่มร้องไห้นอนไม่หลับด้วยความเป็นห่วงนางสาวพรหมจารีย์ จึงกราบวิงวอนขอร้องให้สื่อมวลชน ทุกแขนงทุกสังกัดช่วยเหลือติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ยื่นมือเข้ามาติดตามหานางสาวพรหมจารีน้องสาว ของตนให้พบตัวโดยเร่งด่วน โดยผู้ใดมีข้อมูลเบาะแส ประธานาธิบดี เบอร์โทรศัพท์ 092-568-4178 หลัง 5 โมงเย็น”นางสาวบุญรักษา บุญทอง กล่าว.
ไพฑูรย์ อินทศิลา/ นครศรีธรรมราช
16 ก.ย.2567